หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช

มีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง

หลักของการปฏิบัติที่จะให้เกิดสติปัญญาแท้ๆ เกิดมรรคเกิดผลได้ มีไม่มากหรอก จำหลักสั้นๆ ไว้นิดเดียว
ให้เรามีสติ รู้กาย รู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง
หลวงพ่อไปรวบรวมหลักของการทำวิปัสสนากรรมฐาน ย่อลงมาเหลือเท่านี้เอง
ถ้าพูดให้ถูกๆ ก็มีสติรู้รูป รู้นาม ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง
รูปธรรม นามธรรมนั่นเอง
เรียนรู้รูปธรรมนามธรรมที่ประกอบกันเป็นตัวเรา

ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนา หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
จากซีดีแสดงธรรม ณ วัดสวนสันติธรรม แผ่นที่ ๓๗ ไฟล์ 531010A

กฎของการปฏิบัติ

กฎของการปฏิบัติ

เวลาที่เราจะรู้กายรู้ใจ เรามีสติรู้ถึงความมีอยู่ของร่างกาย รู้ถึงความมีอยู่ของจิตใจ มีสติเห็นร่างกายนี้ มันเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง จิตใจก็เคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แล้วก็มีปัญญาเห็นว่าร่างกายและก็จิต ล้วนแต่ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ สติเป็นตัวรู้สภาวะ สภา ... อ่านต่อ
ธรรมะเรียนไม่ได้ด้วยการคิด

ธรรมะเรียนไม่ได้ด้วยการคิด

จุดอ่อนของปัญญาชน ก็คือคิดมาก หลายคนหลวงพ่อสอนให้รู้สึกตัว ให้ดูกายดูใจ เขาบอกเขายังดูไม่ได้ ต้องคิดไว้ก่อน เออ ก็คิดไป ชาตินี้คิด ชาติหน้าก็ไปคิดต่อ ธรรมะเรียนไม่ได้ด้วยการคิดเอา เรียนด้วยการรู้สึก รู้สึกกาย รู้สึกใจ ดูกายหายใจออก หายใจเข้า ก็เห็นร่ ... อ่านต่อ
การดูสภาวธรรม

การดูสภาวธรรม

สภาวธรรมทั้งหลายมีลักษณะ 2 ประการ คือลักษณะเฉพาะตัว ทำให้ตัวมันแตกต่างกับสภาวะอันอื่น ทำให้เราเห็นได้ว่า ตอนนี้ตัวนี้เกิด ตอนนี้ตัวนี้ดับ มันจะเห็นได้ อีกอันหนึ่งคือลักษณะร่วมคือไตรลักษณ์ อันนั้นเป็นปัญญารวบยอดแล้ว เกิดจากการเห็นแต่ละตัวๆ เกิดดับ สุด ... อ่านต่อ
จากสังขตธรรมสู่อสังขตธรรม

จากสังขตธรรมสู่อสังขตธรรม

โลกไม่มีอะไร โลกเป็นแค่ความปรุงแต่ง หรือเรียกว่าสังขตธรรม เรียกง่ายๆ ว่าสังขาร สังขารมีหลายความหมาย สังขารขันธ์หมายถึงความปรุงดีปรุงชั่ว ปรุงไม่ดีไม่ชั่วของจิต สังขารในภาพใหญ่หมายถึงกายใจของเรา รูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น อันนี้เรียกว่าสังขาร ภาวนา ... อ่านต่อ
วิธีปลดปล่อยใจให้พ้นจากอาสวะ

วิธีปลดปล่อยใจให้พ้นจากอาสวะ

วิธีที่เราจะปลดปล่อยใจของเราให้พ้นจากอาสวกิเลสได้ พระพุทธเจ้าสอนว่า ให้ภาวนาไป เจริญสติปัฏฐานนี่ล่ะ จนกระทั่งจิตหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะความไม่ถือมั่น คีย์เวิร์ดมันอยู่ตรงที่ไม่ถือมั่น เพราะฉะนั้นคำว่าไม่ถือมั่น ไม่ยึดมั่น ไม่ถือมั่น มันจะเป็นหัวใจคำสอน ... อ่านต่อ
คอยวัดใจตัวเองไว้

คอยวัดใจตัวเองไว้

คอยวัดใจตัวเองไปเรื่อยๆ ใจเรามีแต่ความเปลี่ยนแปลง ไม่มีความคงที่ แล้วไม่ต้องไปฝึกให้ใจคงที่ ใจจริงๆ มันเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ก็ไม่ว่ามัน ให้มันเคลื่อนไหวไป ขอแค่มีสติตามรู้ตามเห็น แล้วต่อไปปัญญามันเกิด จะรู้เลย จิตทุกชนิดเกิดแล้วดับ จิตสุข จิ ... อ่านต่อ
พระพุทธเจ้าให้รู้ทุกข์

พระพุทธเจ้าให้รู้ทุกข์

คำสอนของพระพุทธเจ้าจะอยู่ในกฎของคำว่า ให้รู้ทุกข์ รู้กายอย่างที่กายเป็น รู้ใจอย่างที่ใจเป็น รู้ไปเรื่อยๆ จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน คอยรู้สึกตัวไว้ ร่างกายที่ทำไมต้องยืน ต้องเดิน ต้องนั่ง ต้องนอน ต้องเปลี่ยนอิริยาบถ ต้องหายใจเข้า ต้องหายใจออก ทำไมมันต ... อ่านต่อ
หลักสูตรการฝึกสติ

หลักสูตรการฝึกสติ

สิ่งที่เราจะต้องฝึกให้มากคือสติ หลักสูตรในการฝึกสติ พระพุทธเจ้าวางไว้แล้ว เรียกว่าสติปัฏฐาน สติปัฏฐานเป็นวิธีฝึกให้เรามีสติในเบื้องต้น แล้วสติปัฏฐานเมื่อเรามีสติแล้ว เราปฏิบัติต่อไป เราจะเกิดปัญญา ฉะนั้นสติปัฏฐานมี 2 ระดับ เบื้องต้นทำให้เกิดสติ เบื้อ ... อ่านต่อ
เรียนรู้ความจริงของขันธ์ 5

เรียนรู้ความจริงของขันธ์ 5

เราฟังแล้ว เราก็ไปลงมือทำ ถ้าเดินอย่างที่หลวงพ่อบอกนี่ เดินครบทุกขั้นทุกตอน ตามลำดับมาเลย ทำสมถะให้จิตมีกำลัง ให้จิตตั้งมั่น แล้วเจริญปัญญาเห็นความจริงของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ วิญญาณคือจิตนั้นล่ะ มันเกิดดับทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ดูไปเรื่อย ... อ่านต่อ

 

การปฏิบัติธรรมมี ๓ อัน อันแรก เราต้องรักษาศีล ๕ ข้อไว้ อันที่สอง คือการทำในรูปแบบ อันที่สาม คือการทำในชีวิตประจำวัน ต้องทำ

ครูบาอาจารย์ท่านสอน หัวใจของการปฏิบัติ คือ การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพราะว่าชีวิตส่วนใหญ่ของเราอยู่ธรรมดานี่เอง เราไม่ได้นั่งเข้าฌานอยู่ที่ไหนเมื่อไร วันๆ หนึ่งจะทำสมาธิ เดินจงกรมได้สักเท่าไร โดยเฉพาะฆราวาส ทำได้ไม่มาก ชีวิตส่วนใหญ่เราอยู่กับโลกธรรมดานี่เอง

ถ้าเราสามารถหลอมรวมการปฏิบัติเข้าในชีวิตธรรมดาของเรานี้ได้ เราก็จะไปได้เร็วมาก ไม่แพ้พระ ในขั้นต้นๆ โสดาฯ สกาทาคาฯ ฆราวาสไม่แพ้พระหรอกในเรื่องของความเร็ว ถ้ารู้หลักของการปฏิบัติ แล้วตั้งใจปฏิบัติจริงๆ อาจจะเร็วกว่าพระด้วยซ้ำไป”

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แผ่นที่ ๗๘ วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๑ (ไฟล์ 611007A)

 

ธรรมะหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ช่วงส่งการบ้าน

 

ช่วงนี้มีภาระหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้นรู้สึกกำลังจิตอ่อนลง ฟุ้งซ่านง่าย หลงง่าย แต่พยายามภาวนาในรูปแบบ ทุกเช้าทุกวันไม่ขาด ตั้งมั่นได้บ้าง เผลอง่วงไปบ้างแต่ก็ทำ

คำถาม: ช่วงนี้มีภาระหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทำให้สำเร็จ ใช้เวลากับงานตรงหน้ามากขึ้น รู้สึกกำลังจิตอ่อนลง ฟุ้งซ่านง่าย หลงง่าย แต่พยายามภาวนาในรูปแบบ ทุกเช้า หลังตื่นนอนทุกวันไม่ขาด ตั้งมั่นได้บ้าง เผลอง่วงไปบ้างแต่ก็ทำ ขอหลวงพ่อแนะนำการปฏิบัติด้วยค่ะ หลวงพ่อ: เวลาเราอยู่ในชีวิตธรรมดา ถ้ามีช่องว่างตรงไหน เราภาวนาตรงนั้นเลย เก็บเล็กเก็บน้อยไปเรื่อยๆ แล้วอย่าไปกังวลว่า โอ้ ตายแล้ว งานเยอะไม่ได้ภาวนา กังวลนั้นมันกิเลส อย่าเสียเวลาไปกังวล มีเวลานิดหน่อย แทนที่จะเอา ... อ่านต่อ

กิเลสบางตัวเห็นแล้วละได้บ้าง เช่น โทสะ โลภะ โมหะ กิเลสบางตัวเห็นแล้ว แต่ละไม่ได้เลย เช่น ราคะ อยากกอดลูก และมานะ อีโก้

คำถาม: จิตมีพัฒนาการ กิเลสบางตัวเห็นแล้วละได้บ้าง เช่น โทสะ โลภะ โมหะ กิเลสบางตัวเห็นแล้ว แต่ละไม่ได้เลย เช่น ราคะ อยากกอดลูก และมานะ อีโก้ เห็นจิตกระเพื่อม เห็นจิตทำงานเป็นทีม ร่วมกับขันธ์ตัวอื่นๆ เห็นจิตดับ เห็นจิตเป็นตัวทุกข์ ยังหลงไปดูจิตตอนที่จิตไม่กระเพื่อม ทำให้แน่นหน้าอก เลยท่องพุทโธตลอดวันเพื่อเป็นเครื่องอยู่ ที่ทำอยู่ถูกไหมคะ หลวงพ่อ: มันตึงไป มันตึงไปนิดหนึ่ง อย่าไปทำอย่างนี้ เหนื่อย ให้มันธรรมดากว่านี้อีก แล้วก็ไปกอดลูกเยอะๆ ไปกอดลูก แล้วจิตมีราคะขึ้นมารู้ว่ามีราคะ เปลี่ยนจากราคะเป็น ... อ่านต่อ

วันหยุดจะปฏิบัติได้มากกว่าวันทำงาน คิดว่าหากยังต้องทำงาน ความก้าวหน้าในการภาวนาจะเกิดได้ยาก มีเรื่องกวนใจ ใช้ความคิดในงานมาก

คำถาม: ปฏิบัติโดยดูลมหายใจและสวดมนต์ วันหยุดจะปฏิบัติได้มากกว่าวันทำงาน ปฏิบัติตามสบายมากขึ้น รู้สึกว่าก้าวหน้าแล้วก็ถอยหลัง จนไม่แน่ใจว่าเป็นปกติหรือหย่อนเกินไป แต่เห็นทุกข์ได้มากขึ้น คิดว่าหากยังต้องทำงาน ความก้าวหน้าในการภาวนาจะเกิดได้ยาก มีเรื่องกวนใจ ใช้ความคิดในงานมาก ขอแนวทางพัฒนาในการปฏิบัติต่อไปค่ะ หลวงพ่อ: ถ้าเราหลอมรวมการปฏิบัติเข้ากับการใช้ชีวิตจริงได้ การทำงานที่ไม่ได้ผิดศีลผิดธรรม ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหาย เป็นพระก็ทำงาน พระก็ไม่ใช่นั่งๆ นอนๆ พระที่วัดนี้งานเยอะเลย ประเภทคุณหนูทั้งหล ... อ่านต่อ

การมีคู่ชีวิตจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงหรือไม่

คำถาม: รักษาศีลได้ ปฏิบัติในรูปแบบเอาจิตไม่อยู่ พอหลับตาจิตก็วิ่งไปเกาะเรื่องราว พอเดินจงกรมก็ยังคิด จิตฟุ้งซ่าน อ่อนกำลังในการมีสติรู้ความคิด ชอบเผลอครั้งละนานๆ ขอถามหลวงพ่อว่าการมีคู่ชีวิตจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรมเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงหรือไม่ครับ หลวงพ่อ: รายนี้แปลก ไม่ถามกรรมฐาน ถามเรื่องคู่ชีวิต ถ้าเรามีคู่ชีวิตที่ทิฏฐิเสมอกัน ศีลเสมอกัน ก็จะเกื้อกูลกัน ไม่ถ่วงการปฏิบัติ ถ้ามีความเห็นไม่เหมือนกัน อย่างคนนี้ชอบไหว้เจ้า เราชอบเจริญสติปัฏฐาน คนนี้ไหว้แต่ผี ขูดตอตะเคียนอะไรอย่าง ... อ่านต่อ

พอจิตมีแรง เราก็ต้องเอาจิตไปทำงาน ไปทำวิปัสสนา

คำถาม: ภาวนาในรูปแบบโดยเดินจงกรมวันละ 1 ชั่วโมง ดูกายเคลื่อนไหว เห็นความคิด เห็นอารมณ์โกรธ เห็นความอยากได้บ่อยขึ้น ในชีวิตประจำวัน รู้อาการเคลื่อนไหว ตามรู้ความคิด เห็นว่าเมื่อมีการเพ่งร่างกาย จะหยุดหายใจชั่วคราว ขอคำแนะนำจากหลวงพ่อด้วยค่ะ หลวงพ่อ: ดี ทำอีก ทำไป ดูกายดูใจมันทำงานไปเรื่อยๆ แล้วก็หมายรู้มันสักนิดหนึ่ง ไม่ใช่เรา ร่างกายไม่ใช่ตัวเรา ความรู้สึกนึกคิดก็เป็นสิ่งที่เราสั่งไม่ได้ รู้สึกไหม สั่งไม่ได้ ดูในมุมนี้เลย เป็นของสั่งไม่ได้ บังคับไม่ได้ เลือกไม่ได้ หัดดูไปเรื่อย แล้วทำในรูปแบบทุก ... อ่านต่อ

ใช้อานาปานสติ มีลมหายใจเป็นวิหารธรรม มีความต้องการที่จะละสักกายทิฏฐิในชาตินี้ให้ได้

คำถาม: ภาวนาในรูปแบบ ใช้อานาปานสติ มีลมหายใจเป็นวิหารธรรม ในชีวิตประจำวัน จะใช้การดูกายและจิต มีความต้องการที่จะละสักกายทิฏฐิในชาตินี้ ไม่ทราบมีอะไรติดข้องหรือเปล่าขอคำแนะนำด้วยค่ะ หลวงพ่อ: ทำอานาปานสติ มันไม่ได้ละสักกายทิฏฐิหรอก เพราะมันเป็นเรื่องของสมาธิ อย่างเราชอบคิดว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยอานาปานสติ ไม่ใช่ พระพุทธเจ้าทำอานาปานสติ พอจิตตั้งมั่นมีกำลังแล้ว ท่านพิจารณาปฏิจจสมุปบาท พิจารณาว่าความทุกข์เกิดได้อย่างไร ความทุกข์เกิดจากจิตเข้าไปหยิบฉวยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา ที่ไปหยิบฉวยก็เพรา ... อ่านต่อ

จิตมีความอยากดี ติดการประคองรักษาจิต

คำถาม: ทำในรูปแบบ โดยการเดินจงกรมและนั่งสมาธิ ดูร่างกายหายใจ ระหว่างวันดูร่างกายเคลื่อนไหว ดูจิต เห็นว่าจิตมีความอยากดี ติดการประคองรักษาจิต หลวงปู่: อืม ถูก พอมีอาการแน่น ไม่ชอบ อยากหาย พอหายแน่นก็อยากรักษาไว้ เห็นว่าจิตบังคับไม่ได้ ขอหลวงพ่อเมตตาให้คำแนะนำด้วยค่ะ หลวงพ่อ: มันยังเห็นไม่พอ มันเห็นว่าจิตบังคับไม่ได้ แต่ก็พยายามบังคับ ถ้ามันเห็นจริงว่าจิตบังคับไม่ได้ มันจะไม่บังคับ จะเป็นกลาง ดี ที่ฝึกอยู่ ใช้ได้ ทางผ่านมันก็เป็นอย่างนี้ ลุ่มๆ ดอนๆ บ้าง เป็นเรื่องปกติ จุดที่มีปัญหามากที่สุดคือ แอบ ... อ่านต่อ

ยาจิตเวช มีผลข้างเคียงคือกระวนกระวาย จดจ่อกับอารมณ์อันเดียวไม่ได้ หมอลดยาแล้วดีขึ้นบ้าง อาการของโรคกลับมาเล็กน้อย แต่เป็นกลางได้ง่ายกว่า

คำถาม: ทำรูปแบบด้วยการดูกายหายใจ ดูลม แล้วแต่ว่าอะไรชัด ระหว่างวันดูอิริยาบถ หลังเปลี่ยนยาจิตเวช มีผลข้างเคียงคือกระวนกระวาย จดจ่อกับอารมณ์อันเดียวไม่ได้ จิตไม่มีกำลัง ฟุ้งมากทั้งวัน หมอลดยาแล้วดีขึ้นบ้าง อาการของโรคกลับมาเล็กน้อย แต่เป็นกลางได้ง่ายกว่า ความกระวนกระวายจากผลของยา ขอคำแนะนำค่ะ หลวงพ่อ: เห็นไหม มันไม่ได้หนีจากหลักที่หลวงพ่อบอกนี้หรอก จิตไม่ตั้งมั่นเลย เป็นกลาง ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น เป็นกลาง จิตจะไม่ดิ้นรน จิตไม่ดิ้นรน จิตจะสงบ ที่ทำอยู่ ดี ดีมากๆ ด้วย พูดถึงจิตเวชๆ ตอนนี้มันไม่ใช่โรคป ... อ่านต่อ

กรรมฐานของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางใครทางมัน

คำถาม: ติดเพ่งและติดเฉย คลายไม่เป็น ลองเปลี่ยนอารมณ์แล้ว ก็คลายได้บ้าง แต่พอทำต่อก็เป็นอีก กราบขอคำแนะนำค่ะ หลวงพ่อ: เพ่งเพราะโลภ อยากรู้อยากเห็นอยากเป็นอยากได้อยากดีถึงจะเพ่ง ไม่ต้องทำอะไรมากเลย คิดถึงร่างกายไว้ ผมไม่ใช่ตัวเรา ขนเล็บฟันหนังเนื้อเอ็นกระดูกไม่ใช่ตัวเรา พิจารณาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวสมาธิก็จะเกิดขึ้นได้ ไม่อย่างนั้นใจจะซึมๆ ไป พอเข้าใจไหม อย่างดูผม นึกถึงเส้นผมของเรา เอามือจับเลยก็ได้ ผมมีรูปร่างอย่างนี้ มีสีอย่างนี้ มีกลิ่นอย่างนี้ ไม่สะอาดอย่างนี้ พิจารณาไปเรื่อยๆ ไม่ให้จิตซึม ... อ่านต่อ

ถือศีล 5 ชอบฟังธรรม ตรวจสุขภาพพบว่าเป็นโรคร้าย จิตบอกเป็นวิบากกรรม จิตไม่ทุกข์กับโรค

คำถาม: นั่งสมาธิก่อนนอนและตื่นนอนครั้งละ 1 ชั่วโมง ใช้ พุทโธเป็นวิหารธรรม ถือศีล 5 ชอบฟังธรรม และบริจาคโลหิตทุก 3 เดือน ตรวจสุขภาพพบว่าเป็นโรคร้าย จิตบอกเป็นวิบากกรรม จิตไม่ทุกข์กับโรค คงเป็นผลจากการปฏิบัติ ขอหลวงพ่อโปรดชี้แนะค่ะ หลวงพ่อ: ดูไปเรื่อยๆ ร่างกายไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรา พิจารณาลงไปเรื่อยๆ จนใจวางจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้วางจริง ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกไป กายนี้ไม่ใช่ของดีของวิเศษ กายนี้คือตัวทุกข์ ดูซ้ำๆๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใจไม่สะเทือนไม่หวั่นไหวเพราะความเจ็บป่วยของร่างกาย ร่างกายเกิดมาแล้วอย่าง ... อ่านต่อ

 

 

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 17 มิถุนายน 2565

(วันที่ 17 มิถุนายน 2565)

ตามที่วัดสวนสันติธรรมได้ประกาศปิดวัดสวนสันติธรรม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อตอบสนองต่อมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของทางราชการนั้น
ขณะนี้สถานการณ์โรคระบาดได้ผ่อนคลายลงแล้ว วัดสวนสันติธรรมจึงขอแจ้งให้สาธุชนทั้งหลายทราบ ดังนี้

  1. เปิดให้สาธุชนเข้าวัดสวนสันติธรรมได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 7.00 – 16.00 น.
  2. เปิดให้ทุกท่านเข้าฟังธรรมในศาลาใหญ่ได้ โดยใช้ระบบการจอง ซึ่งดำเนินการโดย มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ทั้งนี้ผู้มีสิทธิ์จองจะต้องฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 3 เข็ม ซึ่งทางมูลนิธิฯจะประกาศวิธีการลงชื่อขอเข้าฟังธรรมให้ทราบต่อไป
  3. ทุกท่านจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาที่อยู่ในวัดสวนสันติธรรม ยกเว้นเวลารับประทานอาหาร
  4. ท่านที่ประสงค์จะรับประทานอาหารจากโรงอาหาร ขอให้จัดเตรียมกล่องบรรจุอาหารและช้อนของท่านไปเอง ให้รักษาระยะห่างในการตักอาหาร แยกย้ายกันรับประทาน และเมื่อรับประทานเสร็จแล้ว ขอให้นำภาชนะและช้อนกลับไปล้างที่บ้านของท่าน
  5. พระภิกษุสามเณรที่เดินทางไปฟังธรรม ณ วัดสวนสันติธรรม นิมนต์ฉันภัตตาหารได้ที่โรงอาหาร 2 ในเวลาประมาณ 8.00 น. และนั่งฟังธรรม ณ ที่นั้นต่อไป ยกเว้นพระมหาเถระที่มีอายุพรรษาตั้งแต่ 20 พรรษาขึ้นไป นิมนต์เข้าไปนั่งในศาลาใหญ่ได้ และเมื่อหลวงพ่อปราโมทย์แสดงธรรมจบแล้ว จึงนิมนต์อาคันตุกะทุกรูป เข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ได้
  6. วัดสวนสันติธรรม ยังจัดให้มีการไลฟ์สดการแสดงธรรม ทั้งภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ส่วนการส่งการบ้านกับหลวงพ่อปราโมทย์จะใช้ระบบ Zoom เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกท่านทั่วโลกได้ส่งการบ้านอย่างเท่าเทียมกัน สำหรับท่านที่ได้เข้าฟังธรรมในศาลาใหญ่ สามารถส่งการบ้านกับผู้ช่วยสอนที่อยู่ในศาลาใหญ่ได้ หลังจบการแสดงธรรม

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 9 กรกฎาคม 2564

(ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2564)

ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติให้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 โดยให้จำกัดการเดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงนี้ ทางวัดสวนสันติธรรมเห็นสมควรตอบสนองแนวทางดำเนินงานของทางราชการ ดังนี้

1. ยกเลิกการเข้าฟังธรรมในศาลาใหญ่ตามที่มีการจองมาในเดือนกรกฎาคม 2564 ทั้งหมด โดยทางวัดสวนสันติธรรมจะจัดให้มีการไลฟ์สดการแสดงธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 9.00 – 10.00 น. ผ่านช่องทาง YouTube: Youtube.com/dhammadotcom และ Facebook: Dhamma.com

2. ขอความร่วมมือพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้งดเดินทางไปวัดสวนสันติธรรม ยกเว้นกรณีผู้ใดประสงค์จะถวายทานต่างๆ ให้กระทำได้ดังนี้

2.1 การถวายอาหาร ให้นำไปมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดที่โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 7.45 น. แล้วผู้ปฏิบัติงานจะจัดและนำถวายอาหารต่อสงฆ์ให้เอง
2.2 การถวายอาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ ให้นำไปวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดเตรียมไว้รับของถวาย ณ โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 10.00 น.
2.3 การถวายปัจจัย กระทำได้ 2 วิธีคือ

2.3.1 การโอนเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

– ปัจจัยบำรุงวัด ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56042-4” หรือท่านใดต้องการหลักฐานไว้ลดหย่อนภาษี กรุณาโอนผ่าน QR Code บัญชีวัดสวนสันติธรรม ตามลิงค์นี้ https://content.dhamma.com/wp-content/uploads/QR-WatSuansantidham.jpg

– ปัจจัยสร้างอุโบสถ ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรมเพื่อสร้างอุโบสถ ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56046-7” หรือท่านใดต้องการหลักฐานไว้ลดหย่อนภาษี กรุณาโอนผ่าน QR Code บัญชีวัดสวนสันติธรรมเพื่อสร้างอุโบสถ ตามลิงค์นี้ https://content.dhamma.com/wp-content/uploads/QR-WatSuansantidham-for-Monastery.jpg

– มูลนิธิสื่อธรรม ชื่อบัญชี “มูลนิธิสื่อธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนจันทน์ เลขที่ 715-2-68288-8” หรือโอนผ่าน QR Code มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ตามลิงค์นี้ https://content.dhamma.com/wp-content/uploads/QR-LPTF.jpg

– ปัจจัยถวายพระสงฆ์ ชื่อบัญชี “น.ส.ชยาทร เตชะไพบูลย์ เพื่อบำรุงสงฆ์วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสัน ศรีราชา เลขที่ 042-8-70242-5”
กรณีผู้ถวายมีเจตนาจะถวายโดยเจาะจงต่อพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อโอนปัจจัยเข้าบัญชีแล้ว ขอให้แจ้งเจตนารมณ์ให้ไวยาวัจกรทราบ ทางโทรศัพท์หมายเลข 096-9356359 หรือ Line ID: mediafoundation

2.3.2 การถวายเงินสด ผู้ปฏิบัติงานจะนำผู้บริจาคไปที่ศาลาใหญ่ แล้วรับปัจจัยไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค แต่กรณีเป็นการบริจาคที่เจาะจงพระภิกษุองค์ใดองค์หนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานจะนำซองมาให้ผู้บริจาคเขียนชื่อพระภิกษุรูปนั้นพร้อมบรรจุเงิน แล้วผู้ปฏิบัติงานจะรับซองไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค

 

3. วัดสวนสันติธรรมขอสงวนศาลาใหญ่ เขตที่พักโยม เขตสงฆ์ และเขตอุบาสิกา เป็นพื้นที่เฉพาะบุคคลภายใน

4. โปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ในทุกกรณี

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

วัดสวนสันติธรรมขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด

 

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 19 มิถุนายน 2564

(ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2564)

ตามที่วัดสวนสันติธรรม ได้ขอความร่วมมือจากพระภิกษุ สามเณร อุบาสก และอุบาสิกา ให้งดเดินทางเข้าไปยังวัดสวนสันติธรรมเป็นการชั่วคราว เพื่อตอบสนองต่อมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคระบาดของทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 เป็นต้นมานั้น

ขณะนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ปรับและผ่อนคลายมาตรการตามระดับของสถานการณ์พื้นที่ในจังหวัดชลบุรี วัดสวนสันติธรรมจึงขอผ่อนปรนแนวทางดำเนินงาน ดังนี้

1. เปิดโอกาสให้อุบาสกและอุบาสิกาจองเข้าไปฟังธรรม ณ วัดสวนสันติธรรมได้ ในเดือนกรกฎาคม 2564 ตามวันที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรม ซึ่งจะประกาศให้ทราบทางปฏิทินธรรมของ Dhamma.com โดยจำกัดจำนวนให้สาธุชนเข้าไปฟังธรรมในศาลาใหญ่ได้วันละ 50 คน เพื่อการเว้นระยะห่างของบุคคลตามคำแนะนำของทางราชการ และจะจัดให้มีการไลฟ์สดให้ฟังธรรมได้ที่บ้านด้วย

ทั้งนี้วัดสวนสันติธรรมยังไม่สามารถเปิดให้สาธุชนเข้าฟังธรรมในบริเวณด้านนอกศาลาใหญ่และบริเวณโรงอาหาร 1 – 2 ได้ และยังไม่สามารถเปิดให้เข้าฟังธรรมเป็นหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นองค์กร เช่น โรงเรียน บริษัท หรือกลุ่มชมรมต่างๆ รวมทั้งคอร์ส และกลุ่มรถตู้ธรรมทานต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องขอให้ท่านที่ไม่ได้รับสิทธิ์เข้าฟังธรรมจากการจอง โปรดงดการเดินทางเข้าไปยังวัดสวนสันติธรรม

บุคคลที่ขอสมัครเข้าฟังธรรมจำเป็นต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นดังนี้

  • ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และนับรวมระยะเวลาอีก 14 วัน หลังจากฉีดเข็มที่สองแล้วในวันที่เข้าฟังธรรม (เช่น ฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่สอง ในวันที่ 19 มิถุนายน 2564 นับรวมเวลาอีก 14 วัน จึงเข้าฟังธรรมในวันที่ 3 กรกฎาคมได้)
  • ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 1 เข็ม และนับรวมระยะเวลาอีก 1 เดือนหลังจากฉีดเข็มแรกแล้วในวันที่เข้าฟังธรรม (เช่น ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ในวันที่ 3 มิถุนายน 2564 นับรวมเวลาอีก 1 เดือน จึงเข้าฟังธรรมในวันที่ 3 กรกฎาคมได้)
  • ทุกท่านต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนตอนกรอกใบสมัครขอเข้าฟังธรรม

2. หลวงพ่อปราโมทย์จะแสดงธรรมในช่วงเวลาประมาณ 9.00 – 10.00 น. และจะเปิดให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จากการจองทยอยเข้าศาลาได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. โดยมีขั้นตอนดังนี้

2.1 ตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย สแกนคิวอาร์โค้ตเพื่อเช็คอิน ทันทีที่เดินทางมาถึงวัด
2.2 เมื่อถึงเวลาลงทะเบียน แสดงบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามบัญชีรายชื่อที่จองไว้
2.3 ติดสติกเกอร์ที่ได้รับที่ด้านหน้าของหัวไหล่ซ้าย
2.4 รับเจลทำความสะอาดมือ
2.5 เข้านั่งเก้าอี้ในศาลาในที่ที่ทางวัดจัดไว้ให้ตามหมายเลขการลงทะเบียนของตนเอง งดการลงกราบกับพื้น
2.6 ปิดเสียงโทรศัพท์ และงดการถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอใดๆ

ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานของวัด จะปิดประตูศาลาในเวลา 9.00 น.ตรง และจะเปิดให้คนในศาลาที่มีความจำเป็น ออกไปก่อนจบการฟังธรรมได้ แต่จะไม่เปิดรับท่านที่มาสายหรือท่านที่ออกจากศาลาไปแล้วให้เข้าศาลาอีก ดังนั้นจึงขอให้ท่านตรงต่อเวลาด้วย เพื่อไม่ให้รบกวนการฟังธรรมของผู้อื่น

3. กรณีต้องการส่งการบ้าน ให้กรอกในใบสมัครว่าต้องการส่งการบ้าน ในวันฟังธรรมจะมีการจับฉลากคัดเลือกผู้จะได้ส่งการบ้านในเวลา 8.20 น. เมื่อได้รับสิทธิ์ให้ท่านเขียนสรุปประเด็นที่จะส่งการบ้านมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัด เพื่อนำไปอ่านให้หลวงพ่อฟังทีละคน ทั้งนี้จะไม่มีการส่งไมโครโฟนให้แต่ละท่านถามด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ไมโครโฟนร่วมกัน

4. หลังจบการแสดงธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์

4.1 ไม่มีการแยกกลุ่มย่อยเพื่อสนทนาธรรมกับผู้ช่วยสอน เพื่อป้องกันปัญหาการคลุกคลีเป็นกลุ่มที่จะเกิดขึ้น
4.2 สแกนคิวอาร์โค้ตเพื่อเช็คเอาท์
4.3 กลับออกจากวัดในโอกาสแรกที่ทำได้ เพื่อทีมงานของวัดจะได้ทำความสะอาดศาลา และสถานที่อื่นๆ โดยเร็ว

5. วัดสวนสันติธรรมจำเป็นต้องจำกัดการให้บริการอาหาร ณ โรงอาหาร เพื่อไม่ให้เกิดการเบียดเสียดตักอาหาร และการนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน จึงขอให้ทุกท่านที่ไปฟังธรรม โปรดรับประทานอาหารรองท้องไปก่อน หรือเตรียมอาหาร พร้อมทั้งภาชนะ ช้อน และน้ำดื่มของท่านไปเอง เพื่อกระจายตัวกันรับประทานอาหารในพื้นที่ว่าง หรือในรถของท่าน และเมื่อรับประทานเสร็จแล้ว โปรดเก็บภาชนะและอุปกรณ์ต่างๆ กลับมาทำความสะอาดที่บ้านของท่าน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ท่านมีความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องรับประทานอาหารและไม่ได้เตรียมมาด้วยตนเอง ผู้ปฏิบัติงานของวัดจะตักอาหารให้ท่าน โดยท่านไม่มีสิทธิ์เลือกอาหารตามใจชอบ เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ ทั้งนี้ขอให้การปฏิบัติตามมาตรการนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย ในกรณีที่ไม่สามารถรับประทานอาหารมาก่อน หรือเตรียมอาหารมารับประทานเองได้แล้วเท่านั้น

6. การใช้ห้องน้ำไม่ควรเบียดเสียดกัน ควรคำนึงถึงการเว้นระยะห่างของบุคคลอยู่เสมอ เมื่อใช้ห้องน้ำแล้ว ให้รีบล้างมือ ทั้งนี้ทางวัดจะจัดเตรียม เจลทำความสะอาดมือ หรือสบู่ล้างมือไว้ให้

7. ขอความร่วมมือทุกท่าน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในวัด และโปรดงดการทิ้งขยะในวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะติดเชื้อ เช่น หน้ากาก ทิชชู และเศษอาหาร

8. วัดสวนสันติธรรมต้องกราบขออภัยต่อพระภิกษุ สามเณร ที่ยังไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมเพียงพอ ที่จะรับรองท่านได้ในช่วงนี้

9. หลวงพ่อปราโมทย์ยังคงงดรับนิมนต์แสดงธรรมนอกสถานที่ และโปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์เป็นกรณีพิเศษด้วย

10. กรณีผู้ใดประสงค์จะถวายทานต่างๆ ให้กระทำได้ดังนี้

10.1 การถวายอาหาร ให้นำไปมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดที่โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 7.30 น. แล้วผู้ปฏิบัติงานจะจัดและนำถวายอาหารต่อสงฆ์ให้เอง
10.2 การถวายอาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ ให้นำไปวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดเตรียมไว้รับของถวาย ณ โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 10.00 น.

 

มาตรการทั้งหลายนี้เป็นมาตรการชั่วคราว โดยทางวัดจะปรับเปลี่ยนหรือยกเลิกได้ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการในแต่ละช่วงเวลาของทางราชการต่อไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของแต่ละท่าน และต่อส่วนรวมของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ

 

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 29 เมษายน 2564

(ลงวันที่ 29 เมษายน 2564)

ตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. มีมติให้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ใน 6 จังหวัด รวมถึงจังหวัดชลบุรี โดยห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 20 คน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงนี้ ทางวัดสวนสันติธรรมเห็นสมควรตอบสนองแนวทางดำเนินงานของทางราชการ ดังนี้

1. ยกเลิกการเข้าฟังธรรมในศาลาใหญ่ โดยทางวัดสวนสันติธรรมจะจัดให้มีการไลฟ์สดการแสดงธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 9.00 – 10.00 น. ผ่านช่องทาง YouTube: Youtube.com/dhammadotcom และ Facebook: Dhamma.com

2. ยกเลิกการเข้าฟังธรรมผ่านจอบริเวณนอกศาลาใหญ่

3. ขอความร่วมมือพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้งดเดินทางไปวัดสวนสันติธรรม ยกเว้นกรณีผู้ใดประสงค์จะถวายทานต่างๆ ให้กระทำได้ดังนี้

3.1 การถวายอาหาร ให้นำไปมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดที่โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 7.45 น. แล้วผู้ปฏิบัติงานจะจัดและนำถวายอาหารต่อสงฆ์ให้เอง

3.2 การถวายอาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ ให้นำไปวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดเตรียมไว้รับของถวาย ณ โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 10.00 น.

3.3 การถวายปัจจัย กระทำได้ 2 วิธีคือ

3.3.1 การโอนเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

      • ปัจจัยบำรุงวัด ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56042-4” หรือคลิกที่นี่เพื่อโอนผ่าน QR Code บัญชีวัดสวนสันติธรรม
      • ปัจจัยสร้างอุโบสถ ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรมเพื่อสร้างอุโบสถ ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56046-7” หรือใช้ QR Code บัญชีวัดสวนสันติธรรมเพื่อสร้างอุโบสถ
      • มูลนิธิสื่อธรรม ชื่อบัญชี “มูลนิธิสื่อธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนจันทน์ เลขที่ 715-2-68288-8” หรือใช้ QR Code มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
      • ปัจจัยบำรุงสงฆ์ ชื่อบัญชี “น.ส.ชยาทร เตชะไพบูลย์ เพื่อบำรุงสงฆ์วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสัน ศรีราชา เลขที่ 042-8-70242-5” กรณีผู้ถวายมีเจตนาจะถวายโดยเจาะจงต่อพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อโอนปัจจัยเข้าบัญชีแล้ว ขอให้แจ้งเจตนารมณ์ให้ไวยาวัจกรทราบ ทางโทรศัพท์หมายเลข 096-935-6359 หรือ Line ID: mediafoundation

3.3.2 การถวายเงินสด ผู้ปฏิบัติงานจะนำผู้บริจาคไปที่ศาลาใหญ่ แล้วรับปัจจัยไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค แต่กรณีเป็นการบริจาคที่เจาะจงพระภิกษุองค์ใดองค์หนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานจะนำซองมาให้ผู้บริจาคเขียนชื่อพระภิกษุรูปนั้นพร้อมบรรจุเงิน แล้วผู้ปฏิบัติงานจะรับซองไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค

 

4. วัดสวนสันติธรรมขอสงวนศาลาใหญ่ เขตที่พักโยม เขตสงฆ์ และเขตอุบาสิกา เป็นพื้นที่เฉพาะบุคคลภายใน

5. โปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ในทุกกรณี

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

วัดสวนสันติธรรมขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 20 ธันวาคม 2563

20 ธันวาคม 2563

ตามที่วัดสวนสันติธรรมได้เปิดให้สาธุชนเข้าฟังธรรมและปฏิบัติศาสนกิจได้ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมานั้น

ขณะนี้มีข่าวสารว่า มีการแพร่ระบาดของโรค COVID–19 ครั้งใหม่ในหลายพื้นที่ และทางราชการได้ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค ดังนั้นวัดสวนสันติธรรมจึงเห็นสมควรตอบสนองแนวทางดำเนินงานของทางราชการ ดังนี้

1. ยกเลิกการจองเข้าฟังธรรมในศาลาใหญ่ แต่วัดสวนสันติธรรมจะจัดให้มีการไลฟ์สดการแสดงธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์ในทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00 – 10.00 น.

2. ขอความร่วมมือพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้งดเดินทางไปวัดสวนสันติธรรม ยกเว้นกรณีผู้ใดประสงค์จะถวายทานต่างๆ ให้กระทำได้ดังนี้
2.1 การถวายอาหาร ให้นำไปมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดที่โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 8.00 น. แล้วผู้ปฏิบัติงานจะจัดและนำถวายอาหารต่อสงฆ์ให้เอง
2.2 การถวายอาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ ให้นำไปวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดเตรียมไว้รับของถวาย ณ โรงอาหาร 1 ก่อนเวลา 10.00 น.
2.3 การถวายปัจจัย กระทำได้ 2 วิธีคือ
2.3.1 การโอนเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้
– ปัจจัยบำรุงวัด ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56042-4”
– ปัจจัยสร้างอุโบสถ ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรมเพื่อสร้างอุโบสถ” ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56046-7”
– มูลนิธิสื่อธรรม ชื่อบัญชี “มูลนิธิสื่อธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนจันทน์ เลขที่ 715-2-68288-8”
– ปัจจัยบำรุงสงฆ์ ชื่อบัญชี “น.ส.ชยาทร เตชะไพบูลย์ เพื่อบำรุงสงฆ์วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสัน ศรีราชา เลขที่ 042-8-70242-5”
กรณีผู้ถวายมีเจตนาจะถวายโดยเจาะจงต่อพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อโอนปัจจัยเข้าบัญชีแล้ว ขอให้โทรศัพท์แจ้งเจตนารมณ์ให้ไวยาวัจกรทราบ ทางโทรศัพท์หมายเลข 096-935-6359
2.3.2 การถวายเงินสด ผู้ปฏิบัติงานจะนำผู้บริจาคไปที่ศาลาใหญ่ แล้วรับปัจจัยไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค แต่กรณีเป็นการบริจาคที่เจาะจงพระภิกษุองค์ใดองค์หนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานจะนำซองมาให้ผู้บริจาคเขียนชื่อพระภิกษุรูปนั้นพร้อมบรรจุเงิน แล้วผู้ปฏิบัติงานจะรับซองไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค

3. วัดสวนสันติธรรมขอสงวนศาลาใหญ่ เขตที่พักโยม เขตสงฆ์ และเขตอุบาสิกา เป็นพื้นที่เฉพาะบุคคลภายใน

4. โปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ในทุกกรณี

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

วัดสวนสันติธรรมขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 10 สิงหาคม 2563

10 สิงหาคม 2563

เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดในประเทศได้คลี่คลายลง วัดสวนสันติธรรมจึงขอแจ้งให้สาธุชนทราบ ดังนี้

1. วัดสวนสันติธรรมยังคงให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากาก การเว้นระยะห่าง และการล้างมือ ตามข้อเสนอแนะของทางราชการต่อไป

2. เปิดให้สาธุชนเข้าวัดได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30 – 16.00 น. โดยขอความร่วมมือให้สแกนคิวอาร์โค้ตไทยชนะด้วย

3. สาธุชนทั่วไปสามารถเข้าศาลาใหญ่ เพื่อกราบพระพุทธรูป ปฏิบัติกรรมฐาน ทำบุญ หรือถวายสิ่งของต่อพระภิกษุได้ ในวันจันทร์ ถึงวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 8.00 – 15.00 น. (ยกเว้นกรณีที่พระสงฆ์จำเป็นต้องใช้ศาลาใหญ่ ในการอบรมกรรมฐานในหมู่สงฆ์ การทำวัตร และการทำกิจอื่นๆ ของสงฆ์) แต่จะต้องล้างมือก่อนเข้าศาลา และสวมหน้ากากด้วย

ส่วนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ทางวัดต้องจัดเตรียมสถานที่ฟังธรรม และอุปกรณ์ไลฟ์สด จึงไม่สะดวกที่จะให้สาธุชนเข้าศาลาใหญ่ ยกเว้นในเวลาที่หลวงพ่อแสดงธรรม จึงให้เข้าศาลาใหญ่ได้เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเข้าฟังธรรมไว้แล้ว

4. เปิดให้สาธุชนรับประทานอาหาร โดยให้ตักอาหารด้วยตนเอง แต่ทุกคนจะต้องล้างมือด้วยเจลหรือแอลกอฮอล์ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้เสียก่อน สวมหน้ากากอนามัยเวลาตักอาหาร และสามารถนั่งรับประทานอาหารในโรงอาหารและบริเวณลานข้างโรงอาหารได้ โดยคำนึงถึงการเว้นระยะห่าง และหากเป็นไปได้ก็ควรใช้ภาชนะ ช้อน และแก้วน้ำของตนเอง

5. การฟังธรรมในศาลาใหญ่ ยังคงใช้ระบบลงทะเบียนเดิม ตามประกาศก่อนหน้านี้

6. การฟังธรรมนอกศาลาใหญ่ ให้กระทำได้ โดยไม่ต้องลงทะเบียน เนื่องจากเป็นที่โล่งซึ่งอากาศถ่ายเทได้สะดวก

7. ขอให้สาธุชนทั้งหลายมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม และมีสติ ที่จะช่วยกันรักษามาตรการป้องกันโรคระบาดด้วยตนเอง

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 3 สิงหาคม 2563

(ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2563)

ตามที่วัดสวนสันติธรรมได้มีประกาศเมื่อ 16 มีนาคม 2563 และ 25 กรกฎาคม 2563 ขอความร่วมมือพระภิกษุและสามเณร ให้งดเดินทางไปฟังธรรม ณ วัดสวนสันติธรรม เนื่องจากมีสถานการณ์เกี่ยวกับโรคระบาด และวัดสวนสันติธรรมยังไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมเพียงพอ ที่จะรับรองท่านได้ นั้น

บัดนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อในประเทศไทยได้ลดลงแล้ว และวัดสวนสันติธรรมได้เตรียมสถานที่ที่จะรับรองพระอาคันตุกะและสามเณรไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสามารถให้การต้อนรับทุกองค์ที่ประสงค์จะเข้าไปฟังธรรมได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ท่านสามารถเข้าไปฟังธรรม ในวันเวลาที่หลวงพ่อปราโมทย์แสดงธรรม ซึ่งตรวจสอบได้จากปฏิทินธรรม ทางเพจเฟสบุ๊ค Dhamma.com
2. สถานที่รับรองพระอาคันตุกะและสามเณร อยู่ที่โรงอาหาร 2 ซึ่งจะเปิดรับทุกองค์ได้ ตั้งแต่เวลา 7.30 น. เป็นต้นไป
3. มีภัตตาหารถวายในเวลาประมาณ 8.00 น.
4. นิมนต์นั่งฟังธรรม ณ โรงอาหาร 2 พร้อมญาติโยมในศาลาใหญ่ ผ่านทางจอภาพ ระหว่างเวลา 9.00 – 10.00 น.
5. หลังจากจบการแสดงธรรมตามข้อ 4. หากองค์ใดประสงค์จะเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ จะมีผู้ปฏิบัติงานของวัดมาตรวจวัดอุณหภูมิของท่าน ณ โรงอาหาร 2 แล้วนำท่านไปยังศาลาใหญ่โดยเข้าประตูด้านข้าง ซึ่งเป็นทางเข้าออกที่แยกต่างหากจากญาติโยม
6. โปรดงดการพาญาติโยม เข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ ในเวลาที่จัดไว้สำหรับพระภิกษุและสามเณร
7. โปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์เป็นการส่วนตัว ทั้งหลังการแสดงธรรม และในวันที่ไม่ได้เปิดแสดงธรรม เนื่องจากหลวงพ่อปราโมทย์มีภารกิจมาก และมีสุขภาพไม่แข็งแรงนัก

จึงนมัสการกราบเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ประกาศวัดสวนสันติธรรม 25 กรกฎาคม 2563

(ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2563)

ตามที่วัดสวนสันติธรรม ได้ขอความร่วมมือจากพระภิกษุ สามเณร อุบาสกและอุบาสิกา ให้งดเดินทางเข้าไปยังวัดสวนสันติธรรมเป็นการชั่วคราว เพื่อตอบสนองต่อมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคระบาดของทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นมานั้น
ขณะนี้สถานการณ์โรคระบาดได้คลี่คลายลงบ้างแล้ว วัดสวนสันติธรรมจึงขอผ่อนปรนแนวทางดำเนินงาน ดังนี้

1. เปิดโอกาสให้ “อุบาสกและอุบาสิกา” เข้าไปฟังธรรม ณ วัดสวนสันติธรรมได้ ในวันที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรม ซึ่งจะประกาศให้ทราบทางปฏิทินธรรมของ Dhamma.com โดยจำกัดจำนวนให้สาธุชนเข้าไปฟังธรรมได้วันละ 75 คน เพื่อการเว้นระยะห่างของบุคคลตามคำแนะนำของทางราชการ และจะจัดให้มีการไลฟ์สดให้ฟังธรรมได้ที่บ้านด้วย ดังนั้นจึงต้องขอให้ท่านที่ไม่ได้รับสิทธิ์เข้าฟังธรรมจากการจอง โปรดงดการเดินทางเข้าไปยังวัดสวนสันติธรรม

การคัดเลือกบุคคลที่ได้รับสิทธิ์เข้าฟังธรรมที่วัด จะดำเนินการอย่างเปิดเผยและเป็นธรรม โดยจะเปิดให้ลงชื่อจองในเพจ มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ล่วงหน้าก่อนวันแสดงธรรม ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถลงชื่อจองได้ไม่เกินเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนรายละเอียดการจองจะแจ้งให้ทราบทางเพจของ มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ต่อไป

ทั้งนี้วัดสวนสันติธรรมยังไม่สามารถเปิดให้สาธุชนเข้าฟังธรรมเป็นหมู่คณะ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเช่นโรงเรียน บริษัท หรือกลุ่มชมรมต่างๆ รวมทั้งคอร์ส และกลุ่มรถตู้ธรรมทานต่างๆ เป็นต้น

2. หลวงพ่อปราโมทย์จะแสดงธรรมในช่วงเวลาประมาณ 9.00 น. และจะเปิดให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จากการจองทยอยเข้าศาลาได้ตั้งแต่เวลา 8.30 น. โดยมีขั้นตอนดังนี้
2.1 ถือบัตรประจำตัวให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดอ่าน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามบัญชีรายชื่อที่จองไว้
2.2 สแกนคิวอาร์โค้ต เช็คอิน
2.3 ตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกาย
2.4 รับเจลทำความสะอาดมือ โดยผู้ปฏิบัติงานของวัดจะบีบให้
2.5 ติดสติกเกอร์ที่ได้รับที่ด้านหน้าของหัวไหล่
2.6 เข้านั่งเก้าอี้ในศาลาในที่ที่ทางวัดจัดไว้ให้ตามหมายเลขการลงทะเบียนของตนเอง
2.7 ปิดเสียงโทรศัพท์ และงดการถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอใดๆ

ทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานของวัด จะปิดประตูศาลาในเวลา 9.00 น.ตรง และจะเปิดให้คนในศาลาที่มีความจำเป็น ออกไปก่อนจบการฟังธรรมได้ แต่จะไม่เปิดรับท่านที่มาสายหรือท่านที่ออกจากศาลาไปแล้วให้เข้าศาลาอีก ดังนั้นจึงขอให้ท่านตรงต่อเวลาด้วย เพื่อไม่ให้รบกวนการฟังธรรมของผู้อื่น

3. กรณีต้องการส่งการบ้าน ให้ผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์ตามข้อ 2 แสดงความจำนงต่อผู้ปฏิบัติงานของวัด ในเวลา 8.00 น. แล้วจับฉลากคัดเลือกผู้จะได้ส่งการบ้านในเวลา 8.20 น. จากนั้นให้ท่านสรุปประเด็นที่จะส่งการบ้านให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดฟัง เพื่อจดบันทึกนำไปอ่านให้หลวงพ่อฟังทีละคน ทั้งนี้จะไม่มีการส่งไมโครโฟนให้แต่ละท่านถามด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ไมโครโฟนร่วมกัน

4. หลังจบการแสดงธรรมของหลวงพ่อปราโมทย์
4.1 ไม่มีการแยกกลุ่มย่อยเพื่อสนทนาธรรมกับผู้ช่วยสอน เพื่อป้องกันปัญหาการคลุกคลีเป็นกลุ่มที่จะเกิดขึ้น
4.2 สแกนคิวอาร์โค้ต เช็คเอาท์
4.3 กลับออกจากวัดในโอกาสแรกที่ทำได้ เพื่อทีมงานของวัดจะได้ทำความสะอาดศาลา และสถานที่อื่นๆ โดยเร็ว

5. วัดสวนสันติธรรมจำเป็นต้องจำกัดการให้บริการอาหาร ณ โรงอาหาร เพื่อไม่ให้เกิดการเบียดเสียดตักอาหาร และการนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน จึงขอให้ทุกท่านที่ไปฟังธรรม โปรดรับประทานอาหารรองท้องไปก่อน หรือเตรียมอาหาร พร้อมทั้งภาชนะ ช้อน และน้ำดื่มของท่านไปเอง เพื่อกระจายตัวกันรับประทานอาหารในพื้นที่ว่าง หรือในรถของท่าน และเมื่อรับประทานเสร็จแล้ว โปรดเก็บภาชนะและอุปกรณ์ต่างๆ กลับมาทำความสะอาดที่บ้านของท่าน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ท่านมีความจำเป็นเร่งด่วนจะต้องรับประทานอาหารและไม่ได้เตรียมมาด้วยตนเอง ผู้ปฏิบัติงานของวัดจะตักอาหารให้ท่าน โดยท่านไม่มีสิทธิ์เลือกอาหารตามใจชอบ เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ ทั้งนี้ขอให้การปฏิบัติตามมาตรการนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย ในกรณีที่ไม่สามารถรับประทานอาหารมาก่อน หรือเตรียมอาหารมารับประทานเองได้แล้วเท่านั้น

6. การใช้ห้องน้ำไม่ควรเบียดเสียดกัน ควรคำนึงถึงการเว้นระยะห่างของบุคคลอยู่เสมอ เมื่อใช้ห้องน้ำแล้ว ให้รีบล้างมือ ทั้งนี้ทางวัดจะจัดเตรียม เจลทำความสะอาดมือ หรือสบู่ล้างมือไว้ให้

7. ขอความร่วมมือทุกท่าน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในวัด หากลืมหน้ากาก ก็สามารถขอรับได้จากผู้ปฏิบัติงานของวัด และโปรดงดการทิ้งขยะในวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะติดเชื้อ เช่น หน้ากาก ทิชชู และเศษอาหาร

8. วัดสวนสันติธรรมต้องกราบขออภัยต่อพระภิกษุ สามเณร ที่ยังไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมเพียงพอ ที่จะรับรองท่านได้ในช่วงนี้

9. หลวงพ่อปราโมทย์ยังคงงดรับนิมนต์แสดงธรรมนอกสถานที่ และโปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์เป็นกรณีพิเศษด้วย

มาตรการทั้งหลายที่กล่าวมานี้เป็นมาตรการชั่วคราว โดยทางวัดจะปรับเปลี่ยนให้เข้มขึ้น หรือผ่อนปรนลง ให้สอดคล้องกับมาตรการในแต่ละช่วงเวลาของทางราชการต่อไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของแต่ละท่าน และต่อส่วนรวมของชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ

ประกาศวัดสวนสันติธรรม  20 กรกฎาคม 2563

(ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2563)
ด้วยความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางวัดสวนสันติธรรมจึงยังไม่ได้เปิดให้ญาติธรรมเข้ามาฟังธรรมที่วัด

มูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จึงจัดเผยแพร่การแสดงธรรมของหลวงพ่อในแบบไลฟ์สด (Live) ทางช่องทางต่อไปนี้
– เพจเฟสบุ๊ก Dhamma.com (Dhamma.com Facebook Page)
Facebook.com/DhammaTeachings
– ช่องยูทูป Dhamma.com (Dhamma.com YouTube Channel)
Youtube.com/user/dhammadotcom

ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 7.30 – 8.00 น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป
โดยให้ญาติธรรมทุกท่านรักษาข้อปฏิบัติร่วมกันดังนี้
1. งดการเดินทางมาฟังธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
2. รับชมไลฟ์สดในสถานที่ของตนเอง โดยภาวนาไปด้วยเหมือนเวลามาฟังธรรมที่วัด
3. ขณะฟังธรรมให้
– ปิดการแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก (hide comments and reactions) บนหน้าจอของตนเอง
– งดการเขียนความคิดเห็น (comment) ต่างๆ แม้จะเป็นข้อความอนุโมทนาก็ตาม
– งดการกดชอบใจและแสดงความรู้สึก (like and react)

เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการรบกวนสมาธิของตนเองและผู้อื่นในขณะฟังธรรม

ประกาศวัดสวนสันติธรรม ๒๒ พ.ค. ๒๕๖๓

(ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓)

ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-๑๙ ในขณะนี้ วัดสวนสันติธรรมยังไม่สามารถเปิดให้ญาติธรรมเข้ามาฟังธรรมที่วัด ซึ่งจะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคได้

ทางมูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จึงเผยแพร่การแสดงธรรมของหลวงพ่อแบบไลฟ์สด (Live) ทางช่องทางต่อไปนี้
เพจเฟสบุ๊ก Dhamma.com (Dhamma.com Facebook Page)
ช่องยูทูป Dhamma.com (Dhamma.com YouTube Channel)

ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา ๗.๓๐ – ๘.๐๐ น. เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
โดยให้ญาติธรรมทุกท่านรักษาข้อปฏิบัติร่วมกันดังนี้
๑. งดการเดินทางมาฟังธรรมที่วัดสวนสันติธรรม
๒. รับชมไลฟ์สดในสถานที่ของตนเอง โดยภาวนาไปด้วยเหมือนเวลามาฟังธรรมที่วัด
๓. ขณะฟังธรรมให้
– ปิดการแสดงความคิดเห็นและความรู้สึก (hide comments and reactions) บนหน้าจอของตนเอง
– งดการเขียนความคิดเห็น (comment) ต่างๆ แม้จะเป็นข้อความอนุโมทนาก็ตาม
– งดการกดชอบใจและแสดงความรู้สึก (like and react)

เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการรบกวนสมาธิของตนเองและผู้อื่นในขณะฟังธรรม