ทำในรูปแบบด้วยการนั่งสมาธิ ทำไปสักพักลมหายไป รู้สึกเหมือนหายใจด้วยหน้าอก และเริ่มเห็นจิตคิดเรื่องต่างๆ สลับไปมา และความคิดก็น้อยลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็เห็นเพียงแต่การหายใจด้วยหน้าอก และนิ่งๆ อยู่แบบนั้น

คำถาม:

ใช้การดูลม สลับกับดูอิริยาบถในระหว่างวัน ทำในรูปแบบด้วยการนั่งสมาธิ ทำไปสักพักลมหายไป รู้สึกเหมือนหายใจด้วยหน้าอก และเริ่มเห็นจิตคิดเรื่องต่างๆ สลับไปมา และความคิดก็น้อยลงเรื่อยๆ สุดท้ายก็เห็นเพียงแต่การหายใจด้วยหน้าอก และนิ่งๆ อยู่แบบนั้น ขอหลวงพ่อแนะนำว่าควรทำอย่างไรต่อครับ

หลวงพ่อ:

ก็อยู่อย่างนั้นล่ะ แล้วพอจิตมันถอยออกมา มันเกิดกิเลสอะไรคอยรู้ทันไป หรือถอยออกมาแล้วยังไม่มีกิเลส ร่างกายเคลื่อนไหวก็รู้สึกไป ฉะนั้นเวลาจิตมันเข้าไปตรงนั้น มันจะเข้าสมาธิ ไม่เป็นไร ไม่เสีย เพราะในสมาธิที่คุณเข้า มันยังมีสติอยู่ ตราบใดที่ยังมีสติอยู่ ใช้ได้ ขาดสติเมื่อไร ถึงเข้าฌานอยู่ก็ไม่ได้เรื่อง ฉะนั้นเวลาจิตมันเข้าสมาธิไป แล้วเรายังเห็นความเกิดดับภายใน อันนั้นเรียกว่าเราเดินปัญญาอยู่ข้างในสมาธิ แล้วต่อมามันนิ่งไปเลย มันไม่มีอะไร มันนิ่งสงบเฉยๆ อยู่ ก็ให้มันสงบไป ตอนที่จิตถอยออกจากสมาธิ รู้สึกเลย อย่างจิตมันเริ่มเคลื่อนออกมาคิดแล้ว รู้ทัน ถัดจากที่เห็นจิตมันเคลื่อนออกมา มันจะรู้สึกถึงความมีอยู่ของร่างกาย ก็รู้สึกมีจิต มีกายขึ้นมา

ค่อยๆ รู้ไป ตรงนั้นเราจะเดินปัญญาได้ เพราะจิตเราผ่านสมาธิมาแล้ว มันจะตั้งมั่นมาก พอเห็นร่างกาย มันจะเห็นทันทีเลย ร่างกายไม่ใช่เรา พอเห็นสุขทุกข์ มันจะเห็นทันทีเลย สุขทุกข์ไม่ใช่เรา พอเห็นกุศลอกุศล ก็เห็นกุศลอกุศลไม่ใช่เรา มันจะเห็นทันทีเลย พอจิตเดินมาถึงจุดนี้ รู้หรือยังว่ากายกับจิตมันคนละอัน เห็นไหม มันจะเห็น มันจะแจ่มแจ้ง มันจะไม่สงสัยแล้วตัวนี้ เพราะจิตมันเข้าถึงอัปปนาสมาธิไป เพราะฉะนั้นอัปปนาสมาธิไม่ใช่ข้อเสียนะ ทำทุกวันไม่เป็นไร แต่ตอนที่ออกจากสมาธิแล้ว เดินปัญญา ดูกายทำงาน ดูใจทำงาน แต่ถ้าออกมาแล้วเฉย ติดสมาธิค้างออกมา อันนั้นต้องไปพิจารณาร่างกาย ต้องคิดเลย

แต่ของคุณตอนออกจากสมาธิ จิตไม่ได้ไปติดเฉย ฉะนั้นดูกาย ดูใจ อย่างที่มันเป็นไปได้เลย แต่ถ้าออกมาแล้วซื่อบื้อ ของคุณไม่เป็น เพราะสมาธิของคุณมันมีสติอยู่ คนส่วนใหญ่ที่ทำสมาธิ ไม่มีสติ สมาธิงี่เง่า มีโมหะอยู่ ออกมาโมหะติดออกมาด้วย ใจก็เซื่องซึมอยู่อย่างนั้น อย่างนี้ไปพิจารณาร่างกายเลย พยายามคิดพิจารณา การคิดนั้นจะเป็นการกระตุ้นให้จิตมันทำงาน ของคุณไม่จำเป็น ภาวนาได้ดี ถูกใจ นานๆ เจอคนทำสมาธิได้สักคน เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมี เดี๋ยวนี้ยุคโลกโซเชียล โลกธรรมดานี้ก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ยังไปสร้างโลกเสมือนขึ้นมาอีก แล้วจะเอาเวลาที่ไหนภาวนา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 08 เมษายน 2566