ฝึกปฏิบัติได้มาก แต่ชีวิตมีปัญหา มีความเครียดและกังวล

คำถาม:

ส่งการบ้านหลวงพ่อครั้งก่อน หลวงพ่อบอกว่าใจยังไม่เป็นกลาง หลังจากนั้นในช่วงที่ผ่านมาชีวิตมีปัญหาเรื่องการต้อง work from home มีความกังวลเรื่องโควิด และต้องดูแลคุณพ่อที่ป่วยคนเดียว ทำให้เครียด ต้องไปพบจิตแพทย์ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรักษา แต่การดูแลจิตใจตนเองในยามเจ็บป่วยครั้งนี้ ทำให้ไม่ประมาทเหมือนมีวิกฤติเป็นโอกาส และคิดว่าช่วงกักตัวอยู่บ้านเป็นการได้ฝึกปฏิบัติได้มาก มีเวลาอยู่กับตัวเอง ใจไม่ไปเกาะเกี่ยวกับเรื่องทางโลกเหมือนในยามปกติ ทำให้ทำสมาธิในรูปแบบได้มากขึ้น มีสมาธิดีขึ้น มีศีลดีขึ้น ปกติดูกายสลับกับการดูใจตัวเอง ที่ปฏิบัติมานี้ต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไรให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นไปครับ

 

หลวงพ่อ:

เราก็ฝึกไปเรื่อยๆ ที่ฝึกอยู่มันก็ถูกแล้ว ส่วนอาการอะไรที่ต้องไปหาหมอ ก็ไปหาหมอ มันเป็นเรื่องของร่างกาย คนไทยไม่ชอบไปหาจิตแพทย์อะไรอย่างนี้ มันจำเป็น ในเรื่องภาวนาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งเราก็ช่วยตัวเองได้ อยู่บ้านนั่นล่ะดีที่สุดแล้ว เป็นโอกาสจริงๆ แล้วอ่านใจของเราไปเลย ทั้งวันมีแต่ชอบ ไม่ชอบ ชอบ ไม่ชอบไปเรื่อย เดี๋ยวก็อยากอันนี้ ชอบอันนี้ก็อยากอย่างนี้ ไม่ชอบอันนี้ก็อยากอันนี้ จะเห็นใจมันก็อยากโน้นอยากนี้ไปได้ทั้งวัน มันชอบ มันไม่ชอบขึ้นมาก็มีความอยากตามหลังมา พอมีความอยากเกิดขึ้น ความดิ้นรนของจิตใจก็เกิดขึ้น เรามีสติรู้ทันใจชอบใจไม่ชอบรู้ทัน ใจเป็นกลาง พอใจเป็นกลางใจก็ไม่ได้อยากโน้นอยากนี้แล้ว ใจไม่มีความอยากใจก็ไม่มีความทุกข์

ฉะนั้นตรงนี้เราจำเป็นต้องอยู่บ้าน เราจะชอบ หรือจะไม่ชอบเราก็ต้องอยู่บ้าน ฉะนั้นมันเป็นภาวะที่ว่าจำเป็น จำยอมต้องอยู่อย่างนี้ เป็นวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ ต้องอยู่บ้าน ต้องถูกขังตัวเองอยู่ เราก็ใช้ตรงนี้มาภาวนา ที่ทำอยู่ใช้ได้ ดี แล้วใจมันโมโหขึ้นมา ใจมันหงุดหงิดขึ้นมาคอยรู้ทันไว้ มันโมโห มันหงุดหงิด เพราะมันอยากให้เป็นอย่างอื่น แล้วมันไม่เป็นอย่างที่อยาก มันไม่ได้อย่างที่อยาก อย่างที่ต้องการ จิตมันก็มีความทุกข์ขึ้นมา จิตมันก็หงุดหงิดขึ้นมา เราไม่ต้องไปดูว่าที่อยากมันเป็นอย่างไร เราดูแค่ว่าจริงๆ ตอนนี้มันเป็นอย่างไร

อย่างจริงๆ ตอนนี้เราต้องดูแลพ่อ อันนี้คือความจริง แต่ว่าเราจะไปอยากว่าไม่ต้องดูแลไม่เป็นความจริง ฉะนั้นความอยากเป็นสิ่งซึ่งเราต้องการในสิ่งซึ่งมันไม่จริง มันต้องทุกข์ ถ้าเรายอมรับสิ่งซึ่งกำลังมี สิ่งซึ่งกำลังเป็น ยอมรับสภาพได้เราก็ไม่ทุกข์หรอก ทุกข์ก็ทุกข์ไม่มาก ทุกข์ก็น้อยลง ของคุณถ้าไม่ได้ธรรมะเป็นหนักกว่านี้ เครียดหนักกว่านี้อีก ยังดีว่ามีธรรมะอยู่ ยังช่วยตัวเองได้ส่วนใหญ่ ที่เหลือก็ให้หมอเขาช่วยเอา

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
17 กรกฎาคม 2564