ดูจิตได้มากกว่าดูกาย เดินปัญญาได้แต่ไม่มาก ตามเห็นกิเลส อารมณ์ และความคิดได้บ้าง แต่ยังหลงอยู่

คำถาม:

ปฏิบัติในรูปแบบเกือบทุกวันด้วยการเดินจงกรม และดูลมหายใจได้ 20 – 30 นาทีต่อวัน ดูจิตได้มากกว่าดูกาย เดินปัญญาได้แต่ไม่มาก ตามเห็นกิเลส อารมณ์ และความคิดได้บ้าง แต่ยังหลงอยู่ ขอหลวงพ่อแนะนำแนวทางในการปฏิบัติต่อไปค่ะ

 

หลวงพ่อ:

ดูไปเลย ใจเราไม่ค่อยมีความสุข โทสะมันแทรกเป็นระยะๆ เพราะฉะนั้นใจมันจะหงุดหงิดๆๆ ไปเรื่อยๆ ให้เรารู้ทันไป ใจมันหงุดหงิดขึ้นมาเรารู้ ใจมันสงบขึ้นมาเรารู้ เห็นกิเลสนั่นล่ะดีที่สุด การภาวนาถ้าเราไม่เห็นอย่างอื่น เห็นกิเลสที่มันเกิดๆ ดับๆ อยู่ในใจเรา ดีที่สุดแล้ว เพราะศัตรูของเราจริงๆ ก็คือกิเลส เวลาจะแตกหักลงไป ก็คือแตกหักกับกิเลส ทำลายกิเลสคือตัวอวิชชา ตัวโมหะ ตอนนี้โมหะเรายังเยอะอยู่ ใจมันยังฟุ้ง ใจมันยังหลง แล้วก็ประกอบด้วยโทสะเก่ง หงุดหงิดง่ายอะไรอย่างนี้ เราก็คอยรู้เอาๆ เราจะเห็นว่ากิเลสแต่ละตัวมันมาแล้วมันก็ไป มาแล้วก็ไป ห้ามมันก็ไม่ได้ ควบคุมมันก็ไม่ได้ อย่างใจจะหลงห้ามไม่ได้ แต่อย่าหลงนานเท่านั้น ใจมันหลงแล้วก็รู้ ใจมันหลงแล้วรู้ไวๆ เท่านั้น หรือใจหงุดหงิดแล้วก็รู้ ใจหงุดหงิดแล้วก็รู้ รู้บ่อยๆ ไปเรื่อยๆ ถ้าเรารู้ได้ศีลเราก็จะดี สมาธิก็จะดี ปัญญามันก็จะเกิด คอยรู้ทันไปเรื่อยๆ รู้ทันกิเลส รู้บ่อยๆ

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 31 กรกฎาคม 2564