มิจฉาทิฏฐิ

FileAction
หนังสือมิจฉาทิฏฐิDownload 

 

ของฟรีไม่มี ของฟลุกไม่มี ทุกอย่างต้อง ทำเอาเอง นี่คือกฎแห่งกรรม ไม่มีอะไรเหนือกรรม วรรคทองจะเหนือกรรมก็เป็นไปไม่ได้ ฉะน้ันเจริญ สติไว้ ถ้าพลาดจากการเจริญสติ เจริญสมาธิที่ ถูกต้อง คือพลาดจากทาง

 

พระพุทธเจ้าถึงชมว่า เราไม่เห็นธรรมะ อย่างอื่นเลย ท่ีจะทำให้อกุศลดับไป ที่ทำให้กุศลเจริญข้ึนมา เหมือนความรู้สึกตัว เพราะฉะน้ัน ถ้าเราฟังครูบาอาจารย์แล้วใจก็เคลิ้ม มีความสุข โมหะครอบงำหมดเลย ดำมืดไปหมดเลย ถ้ามีหูมี ตามองปราดเนี่ย ดำไปหมดท้ังทีมเลย เพราะ ฉะน้ันอย่าทิ้งความรู้สึกตัว อย่ามุ่งไปหาความสุข อย่ามุ่งไปหาความสงบ ความสุข ความสงบ ความสบายอะไรทั้งหลายน้ีเป็นผลพลอยได้ หลังจากที่เราผ่านการปฏิบัติสมบูรณ์แล้ว มันเป็นของแถม เมื่อเราภาวนาได้ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว ยังภาวนา ผิดอยู่ ไม่ได้ภาวนาเลย ฟังธรรมะแล้วก็เพลินๆ ไปอย่างน้ัน ยุคน้ีมีหลายคนท่ีสอนแบบน้ัน สอน วรรคทอง วันๆ ไม่ทำอะไร แล้วคิดแต่วรรคทอง ท้ังหลายออกมา แล้วสอนคนก็ปลื้มไป มีคนติดตามเป็นแสนเลย ชอบธรรมะเลื่อนลอย มันเหมาะกับคนเลื่อนลอย

ธรรมะจริงจังที่จะเรียนรู้กายรู้ใจ มันเหน็ดเหนื่อย มันต้องลงทุนลงแรง ไม่เหมือน ธรรมะเลื่อนลอย ฟังอะไรเคล้ิมๆ เพลินๆ มีความ สุขแล้ว คิดว่านี่คือศาสนาพุทธ มันตื้นเกินไป ของฟรีไม่มี จำไว้เลย ทุกอย่างอยู่ในกฎแห่งกรรม ทั้งส้ิน ไม่มีของฟรี ถ้ามีของฟรีแสดงว่ากฎแห่งกรรมไม่จริง อยากได้ดี ก็ต้องลงมือทำ ทำสิ่งที่ทำให้ได้ผลดี

อยากเป็นคนชั่วก็ต้องมีกฎแห่งกรรม ต้อง ทำเหตุให้ชั่ว ถึงจะเป็นคนชั่ว อยากจะได้มรรคผล ต้องทำเหตุของมรรคผล ต้องมีศีล มีสมาธิที่ ถูกต้อง มีปัญญาท่ีถูกต้อง แล้วปัญญาไม่ใช่เกิดจากการฟัง อย่างพวกท่ีบอกฟังเซนๆ น่ะ ปัญญาจากการฟัง สบายใจ ไม่ล้างกิเลสหรอก ปัญญาที่จะใช้ ไม่ใช่เกิดจากการฟัง ไม่ใช่เกิดจากการอ่าน ปัญญาจากการฟังการอ่านเรียกว่า สุตมยปัญญา แล้วก็ไม่ใช่ปัญญาที่เกิดจากการคิดค้นคว้าเอา ปัญญาที่เกิดจากการคิดเรียก จินตามยปัญญา ปัญญาท่ีจะทำให้บริสุทธ์ิหลุดพ้นคือ ภาวนามยปัญญา ภาวนาแปลว่าเจริญ เจริญสติปัฏฐาน ทีนี้ จะเจริญสติปัฏฐานได้ดี จะให้เกิดปัญญาได้ จิต ต้องมีสมาธิท่ีถูกต้อง เพราะสมาธิเป็นเหตุใกล้ ให้เกิดปัญญา

ต้องเรียนฝึกให้มีสมาธิ จิตใจอยู่กับเนื้อ กับตัว แล้วก็มีสติระลึกรู้รูประลึกรู้นามไป อย่าง พวกเราสังเกตไหม ฟังหลวงพ่อเทศน์จิตพวกเราจะตื่น เพราะธรรมะที่หลวงพ่อเทศน์เป็นธรรมะเพื่อความตื่น ไม่ใช่ธรรมะเพื่อความเคลิบเคล้ิม ธรรมะเพื่อความเคลิบเคล้ิมก็ได้เหมือนคนติดยาเสพติดเท่านั้น สบายไม่ได้ประโยชน์อะไรข้ึนมา มีความ สุข เพลินๆ ไปวันหน่ึงๆ แล้วจะได้อะไร ไม่เห็น ทุกข์ เห็นโทษ

ครูบาอาจารย์ย้ำเลย หลวงปู่เทสก์สอน เลย ไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม ต้องเห็นถึงขนาด นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรเกิดข้ึน นอกจากทุกข์ไม่มี อะไรต้ังอยู่ นอกจากทุกข์ไม่มีอะไรดับไป ต้องเห็น ถึงขนาดนี้ถึงจะข้ามวัฏฏะ เป็นพระอรหันต์ได้ ไม่มีหรอกฟังธรรมะแล้วก็จิตใจมีความสุข แล้วก็บรรลุ แล้วทำสมาธิอยู่เฉยๆ ก็ไม่บรรลุ ต้องเจริญปัญญา ด้วย ฉะนั้นต้องครบ ศีล สมาธิ ปัญญา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
20 กรกฎาคม 2562