เวลาฟังธรรมหรือนั่งสมาธิ จิตมักจะเข้าไปจับอารมณ์นิ่งๆ ว่างๆ แล้วก็หลับไป

คำถาม:

เวลาผมนั่งฟังธรรมหรือนั่งสมาธิ จิตมักจะเข้าไปจับอารมณ์นิ่งๆ ว่างๆ อยู่ข้างใน แล้วก็หลับไป เป็นอย่างนี้อยู่หลายปี ผมแก้ไขตัวเองด้วยการฝึกรู้ทีละขณะ คือเวลานั่งฟังธรรม ก็จะฟังทีละขณะแล้วฟังใหม่ เวลานั่งสมาธิ ก็จะรู้อิริยาบถที่นั่ง หรือรู้ร่างกายที่กำลังหายใจทีละขณะ แล้วรู้ใหม่ไปเรื่อยๆ ก็พอจะช่วยแก้ไขเรื่องนั่งแล้วหลับได้ ขอความเมตตาหลวงพ่อช่วยชี้แนะเพิ่มเติมให้ด้วยครับ

 

หลวงพ่อ:

นั่นล่ะทำไปเถอะ มีชีวิตอยู่เป็นขณะๆ ไปนั่นล่ะดีแล้ว ยกเว้นเวลาต้องการความสงบ ก็พักเข้าไปเลย อย่างบางทีเราจะนอน เราจะไปรู้ทีละขณะๆ ไม่นอนหรอก เราก็รู้สึกไป บริกรรมไปอะไรไป ใจมันสว่างว่างขึ้นมา เราก็ทรงอยู่อย่างนั้น ถ้าเราต้องการอยู่อย่างนั้นทั้งคืนมันก็อยู่ได้ ก็ได้สมาธิ ถ้าเราต้องการพักเราก็คลายจิตออก จากที่เราไปมีสติอย่างแข็งแรงอยู่ คลายออกมันก็จะหลับ การภาวนาถ้าสติเราแข็งแรงพอไม่หลับหรอก ที่นั่งแล้วหลับๆ เพราะสติมันไม่แข็งแรง แต่มันมีหลาย factor ถ้าร่างกายเราเหนื่อยมันก็หลับเหมือนกัน หรืออีกอย่างหนึ่งจิตมันเหนื่อย จิตก็หลับเหมือนกัน

หลวงพ่อก็เคยเป็นเมื่อปีพ.ศ. 2526 นั่งสมาธิก็หลับ เดินจงกรมก็หลับ ทำอะไรก็หลับ ทั้งๆ ที่สติเข้มแข็งมากเลย ตั้งแต่เด็กๆ ทำสมาธิ เจริญสติอะไร แข็งแรง แต่ถึงช่วงนั้นหลับลูกเดียวเลย ทำอย่างไรก็ไม่หาย ไปถามหลวงปู่สิม หลวงปู่สิมบอก “ให้ทำไปเถอะ อย่าสงสัยเลย” เราก็ทำไป หลับก็ช่างมันไม่ปฏิเสธมัน ในที่สุดจิตมันได้พักพอ พอมันมีกำลัง บางทีมันหลับตรงนี้ มันหลับเพราะว่า เรียกว่า “นิพพิทา” จิตมันเบื่อโลก จิตมันเบื่อโลกมันก็หนีด้วยการหลับ

ฉะนั้นเราไปดูตรงที่นั่งแล้วหลับ นั่งแล้วหลับมันมีหลายอย่าง ถ้าร่างกายเหนื่อยแล้วหลับไปนอนเสีย แล้วถ้าสติเราอ่อนไปนั่งแล้วหลับ สมาธิมันล้ำหน้า เราเพิ่มพลังของสติขึ้น รู้สึกขึ้นๆ เป็นขณะๆ ไป แต่ถ้าจิตมันเกิดปัญญาแล้ว มันมีนิพพิทาญาณเกิดขึ้น มันเบื่อหน่ายแล้วมันจะพัก แสดงว่าเราเข้าฌานน้อยไป ทำความสงบน้อยไป จิตมันก็เลยหนีด้วยการเข้าไปหลับ ที่ฝึกอยู่ใช้ได้ ไปฝึกมีชีวิตอยู่ทีละขณะนั่นล่ะดีแล้ว พัฒนาขึ้นเยอะ ดี

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
24 กรกฎาคม 2564