คำถาม:
ปฏิบัติในรูปแบบโดยนั่งรู้สึกร่างกายหายใจเข้าออกทุกเช้า – เย็นรอบละ 1 ชั่วโมง มีสติมากขึ้น หลงแล้วรู้ เห็นกาย จิต เวทนาอยู่คนละส่วนกัน เห็นร่างกายพยายามขยับหนีเวทนาบ่อยๆ ในชีวิตประจำวันก็ใช้การรู้สึกตัว และตามดูร่างกายหรือจิต เพ่งน้อยลง ใจเป็นธรรมดามากขึ้น เห็นอนิจจังและอนัตตาได้เนืองๆ เห็นกิเลสบ้าง ช่วงนี้เห็นราคะมากขึ้น จากเดิมที่เห็นโทสะ บางวันก็รู้แต่เหมือนไม่รู้อะไร ก็ตามรู้ไปตามที่มันเป็น ขอหลวงพ่อแนะนำการปฏิบัติด้วยครับ
หลวงพ่อ:
ที่เล่ามาก็ใช้ได้แล้ว แต่เราสังเกตให้ดีเวลาเราภาวนา บางทีเหมือนเดินปัญญาอยู่ แต่จิตมันไม่ถึงฐานทีเดียวหรอก จิตมันยังอยู่ข้างนอกๆ อยู่ ฉะนั้นเราทำความสงบเข้ามา หายใจไม่ดึงจิต หายใจเฉยๆ ลองถอยออกมาซิ ตรงนี้กับเมื่อกี้ไม่เหมือนกันรู้สึกไหม เมื่อกี้ใจมันออกข้างนอก มันกว้างๆ มันไม่ถึงฐานหรอก มันดูไม่ถึงจิตหรอก จิตมันต้องตั้งมั่นอย่างนี้ มันดูเข้ามาถึงจิตถึงใจจริงๆ มันถึงจะเห็นทุกข์ ถ้าไม่เห็นอย่างนั้นมันก็เหมือนดูหนังเฉยๆ ใจมันจะเฉยๆ มันไม่ได้ซาบซึ้งในความทุกข์ ถ้าจิตตั้งมั่นจริงๆ มันจะเห็นทุกข์ เห็นทุกข์มันก็เห็นธรรม
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 31 กรกฎาคม 2564
วัดสวนสันติธรรม 31 กรกฎาคม 2564