ประกาศวัดสวนสันติธรรม ๕ พ.ค. ๒๕๖๓

ตามที่ทางวัดสวนสันติธรรมได้เปิดให้ลงชื่อเข้าพักภาวนาที่วัด และได้มีการลงชื่อไปจนถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๓ นั้น ทางวัดขอยกเลิกการรับญาติธรรมเข้าพักภาวนาทั้งหมด เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโรคติดต่อโควิด-๑๙

ทั้งนี้ตลอดทั้งปี ๒๕๖๓ จะยังไม่มีการเปิดให้ลงชื่อเพิ่มเติม ซึ่งหากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-๑๙ คลี่คลายในปีหน้า จะมีการประกาศวันและวิธีการลงชื่อให้ทราบต่อไป

ประกาศวัดสวนสันติธรรม ๗ เม.ย. ๒๕๖๓

(ลงวันที่ 7 เมษายน 2563)

ตามที่วัดสวนสันติธรรม ได้ตอบสนองมาตรการของรัฐ ในการแก้ปัญหาโรคระบาด ตามประกาศวัดสวนสันติธรรมตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นมานั้น
สาธุชนทั้งหลายได้ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามคำขอร้องของทางวัดเป็นอย่างดี ซึ่งทางวัดและหลวงพ่อขออนุโมทนาด้วย

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางวัดและหลวงพ่อได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยความเห็นใจทั้งต่อ
1. ผู้ประสบความเดือดร้อนจากโรคระบาดทั้งทางตรงและทางอ้อม
2. กลุ่มบุคลากรของทางราชการและเอกชน ซึ่งช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างยากลำบาก และ
3. กลุ่มสานุศิษย์ผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรม ซึ่งต้องเผชิญกับความเครียดนานัปการ

ทางวัดและหลวงพ่อ ตั้งความหวังว่าทุกฝ่ายจะเห็นความสำคัญของบ้านเมืองโดยส่วนรวมเป็นหลัก มีจิตสำนึกที่ไม่เห็นแก่ตัว และตระหนักว่าสถานการณ์ในขณะนี้ เป็นวิกฤติการณ์ใหญ่ที่ไม่มีครั้งใดเท่า นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา และทุกคนมีส่วนอย่างสำคัญที่จะระงับภัยครั้งนี้ ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำของรัฐอย่างเคร่งครัด

สำหรับวัดสวนสันติธรรม ก็ได้บอกกล่าวชักชวนให้กลุ่มสานุศิษย์มีจิตสำนึกและแสดงบทบาทอันเหมาะสม ในการช่วยเหลือสังคมเท่าที่แต่ละคนจะช่วยกันได้ และในส่วนของบุคลากรในวัดเอง ทั้งพระสงฆ์ หลวงพ่อ คุณแม่ชี และผู้ที่อยู่ประจำในวัด ก็ได้รวบรวมปัจจัยมูลค่า 550,000 บาท เฉลี่ยส่งไปช่วยโรงพยาบาลต่างๆ คือ

1. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
2. โรงพยาบาลราชวิถี
3. มูลนิธิรามาธิบดีฯ
4. ศิริราชมูลนิธิ
5. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
(รายการที่ 1 – 5 เมื่อ 24 มีนาคม 2563 รายการละ 66,667 บาท)

6. สถาบันบำราศนราดูร (เมื่อ 25 มีนาคม 2563 จำนวน 66,667 บาท)
7. มหาวิทยาลัยมหิดล โครงการสวมเกราะให้นักรบเสื้อกาวน์ (เมื่อ 27 มีนาคม 2563 จำนวน 150,000 บาท)

จึงขอให้สาธุชนร่วมอนุโมทนาและมีส่วนแห่งบุญนี้โดยทั่วกัน

อนึ่ง หลวงพ่อได้ฝากข่าวถึงสานุศิษย์ว่า

“ขอให้อดทนอดกลั้น มีสติและปัญญา ฝ่าความยากลำบากในครั้งนี้ไปด้วยกันให้ได้ทุกคน

อย่างน้อยก็ให้ตระหนักว่า ไม่ว่าปัญหาใดๆ ล้วนแต่มีอยู่ เป็นอยู่ ชั่วคราว แล้วก็ต้องผ่านไป ขอเพียงวางใจให้เป็นกลาง อยู่กับปัจจุบันจริงๆ อย่าปล่อยใจให้จมกับโทสะ แล้วจะไม่รู้สึกว่าความยากลำบากครั้งนี้ ยาวนานเกินกว่าความเป็นจริง

เมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว เราจะรู้ได้ถึงความเติบโตทางจิตใจของตนเอง และรู้ว่าบททดสอบคราวนี้มีคุณประโยชน์ใหญ่หลวง สำหรับการเดินทางไกลในสังสารวัฏของเรา”

ประกาศวัดสวนสันติธรรม (เพิ่มเติม)

(ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓)

จากประกาศวัดสวนสันติธรรม ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓
ข้อ ๓.ซึ่งระบุว่า

กรณีผู้ใดประสงค์จะถวายทานต่างๆ ให้กระทำได้ดังนี้
๓.๑ การถวายอาหาร ให้นำไปมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดที่โรงอาหาร ๑ ก่อนเวลา ๘.๐๐ น. แล้วผู้ปฏิบัติงานจะจัดและนำถวายอาหารต่อสงฆ์ให้เอง
๓.๒ การถวายอาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ ให้นำไปวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดเตรียมไว้รับของถวาย ณ โรงอาหาร ๑ ก่อนเวลา ๑๐.๐๐ น.

ขอแจกแจงเพิ่มเติมประกาศข้อนี้ว่า

อนุญาตให้นำอาหาร อาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ มาถวายในช่วงเวลาดังกล่าวเท่านั้น เมื่อถวายแล้วสามารถใช้ห้องน้ำบริเวณโรงอาหาร ๑ และเดินทางกลับออกไปจากวัดเลย

ไม่ได้หมายความว่าอนุญาตให้อยู่ในวัดเพื่อทำกิจกรรมใดๆ เช่น การรับประทานอาหาร การจับกลุ่มสนทนา หรือการอยู่ช่วยงานวัดได้ในช่วงเวลา ๘.๐๐ – ๑๐.๐๐ น. รวมไปถึงเวลาหลังจาก ๑๐.๐๐ น. เป็นต้นไปด้วย ทั้งนี้เพื่อไม่ให้คนมารวมตัวที่วัดเป็นจำนวนมากและทำกิจกรรมต่างๆ อันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อให้ทุกคน

โดยการนี้หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ได้เมตตามีโอวาทธรรมมาถึงศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย ความว่า

“หลวงพ่อขอให้ลูกศิษย์ จงผ่านช่วงยากลำบากนี้ด้วยสติปัญญา
ขณะนี้เป็นเวลาทดสอบใจของเราแล้ว
ว่าธรรมะจะช่วยพวกเราได้มากน้อยแค่ไหน
ระหว่างนี้พยายามฝึกตนให้ดี
แล้วค่อยพบกันใหม่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”

ประกาศวัดสวนสันติธรรม ๑๖ มี.ค. ๒๕๖๓

(ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓)

ตามที่วัดสวนสันติธรรมได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่า หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช จะงดการแสดงพระธรรมเทศนา ทั้งนอกและในวัดสวนสันติธรรม เนื่องจากมีสาธุชนให้ความสนใจไปร่วมชุมนุมฟังธรรมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ทางราชการขอความร่วมมือให้ประชาชน งดการเข้าไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด นั้น

ขณะนี้สถานการณ์โรคระบาดยังมีอยู่ และสาธุชนก็ยังเข้าไปที่วัดสวนสันติธรรมเป็นจำนวนมากทุกวัน ดังนั้นเพื่อตอบสนองมาตรการแก้ไขปัญหาของทางราชการ วัดสวนสันติธรรมจึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน ดังนี้

๑. ขอความร่วมมือพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ให้งดเดินทางไปวัดสวนสันติธรรม

๒. ยกเลิกการให้ญาติโยมเข้าพักปฏิบัติธรรมในวัด แต่จะให้ผู้ที่ถูกยกเลิกครั้งนี้ มีสิทธิ์เป็นลำดับต้นในการจองอยู่วัดครั้งต่อไป

๓. กรณีผู้ใดประสงค์จะถวายทานต่างๆ ให้กระทำได้ดังนี้*

๓.๑ การถวายอาหาร ให้นำไปมอบให้ผู้ปฏิบัติงานของวัดที่โรงอาหาร ๑ ก่อนเวลา ๘:๐๐ น. แล้วผู้ปฏิบัติงานจะจัดและนำถวายอาหารต่อสงฆ์ให้เอง

๓.๒ การถวายอาหารแห้ง และเครื่องใช้อื่นๆ ให้นำไปวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดจัดเตรียมไว้รับของถวาย ณ โรงอาหาร ๑ ก่อนเวลา ๑๐:๐๐ น.

๓.๓ การถวายปัจจัย กระทำได้ ๒ วิธีคือ

๓.๓.๑ การโอนเข้าบัญชีธนาคาร ดังนี้

– ปัจจัยบำรุงวัด ชื่อบัญชี “วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาศรีราชา เลขที่ 172-2-56042-4”

– มูลนิธิสื่อธรรม ชื่อบัญชี “มูลนิธิสื่อธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ธนาคากสิกรไทย สาขาถนนจันทน์ เลขที่ 715-2-68288-8”

– ปัจจัยบำรุงสงฆ์ ชื่อบัญชี “น.ส.ชยาทร เตชะไพบูลย์ เพื่อบำรุงสงฆ์วัดสวนสันติธรรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรบินสัน ศรีราชา เลขที่ 042-8-70242-5”
กรณีผู้ถวายมีเจตนาจะถวายโดยเจาะจงต่อพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เมื่อโอนปัจจัยเข้าบัญชีแล้ว ขอให้โทรศัพท์แจ้งเจตนารมณ์ให้ไวยาวัจกรทราบ ทางโทรศัพท์หมายเลข 096-935-6359

๓.๓.๒ การถวายเงินสด ผู้ปฏิบัติงานจะนำผู้บริจาคไปที่ศาลาใหญ่ แล้วรับปัจจัยไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค แต่กรณีเป็นการบริจาคที่เจาะจงพระภิกษุองค์ใดองค์หนึ่ง ผู้ปฏิบัติงานจะนำซองมาให้ผู้บริจาคเขียนชื่อพระภิกษุรูปนั้นพร้อมบรรจุเงิน แล้วผู้ปฏิบัติงานจะรับซองไปหยอดตู้ให้ต่อหน้าผู้บริจาค

๔. วัดสวนสันติธรรมขอสงวนศาลาใหญ่ เขตที่พักโยม เขตสงฆ์ และเขตอุบาสิกา เป็นพื้นที่เฉพาะบุคคลภายใน

๕. โปรดงดการขอเข้าพบหลวงพ่อปราโมทย์ในทุกกรณี

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง

วัดสวนสันติธรรมขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีมาโดยตลอด

 

*อ่านประกาศเพิ่มเติม ลงวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓

หนทางยังมีอยู่…

หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางยังไม่ขาดสาย
ลงมือเสียแต่วันนี้
ก่อนที่กระแสลมแห่งกาลเวลา
จะพัดพารอยพระบาทของท่านหายไป
เพราะถึงเวลานั้น
พวกเราก็จะต้องระหกระเหินไร้ทิศทาง
ไปอีกแสนนาน…