คำถาม:
หลวงพ่อ:
เราอย่าไปคิดว่า เราอยู่ห่าง ครูบาอาจารย์ ตอนที่หลวงพ่อเป็นโยมภาวนา หลวงพ่อไม่ได้ไปหาครูบาอาจารย์ทุกวัน อย่างหลวงปู่ดูลย์ ประมาณ 3 เดือน ถึงจะไปหาทีหนึ่ง ไปทุกวันไม่ได้ ทุกเดือนก็ไปหาหลวงพ่อพุธทีหนึ่ง ยุคนี้ง่าย เปิดยูทูปเมื่อไรก็เจอแล้ว เราไม่ได้ห่างครูบาอาจารย์หรอก ตอนนั้นหลวงพ่อนานๆ เจอครูบาอาจารย์ทีหนึ่ง แต่หลวงพ่อยังไม่รู้สึกว่า ตัวเองห่างครูบาอาจารย์เลย เหมือนท่านตามดูเราอยู่ทั้งวันเลย เราคิดอย่างนี้ เรารู้เลยว่าครูบาอาจารย์จะว่าอย่างไร เราพูดอย่างนี้ เรารู้ว่าครูบาอาจารย์จะว่าอย่างไร เราทำอย่างนี้ เรารู้ว่าครูบาอาจารย์จะว่าอย่างไร มันเหมือนมีครูบาอาจารย์กำกับเราอยู่ทั้งวันเลย ไม่รู้สึกว่าเราอยู่ไกลครูบาอาจารย์หรอก
ฉะนั้นครูบาอาจารย์ไม่ได้อยู่ที่วัดหรอก อยู่ที่ใจเรา ใจเรานึกถึงก็ถึง พอนึกถึงแล้วเราก็มาดูว่า ถ้าเราทำอย่างนี้ เราคิดอย่างนี้ เราพูดอย่างนี้ เราทำอย่างนี้ ครูบาอาจารย์จะรู้สึกอย่างไร ท่านจะชม หรือท่านจะตำหนิ คอยดู สอนตัวเองเรื่อยๆ มันก็จะไม่กล้าหลงโลก เวลาที่ไปทำงาน ไปเรียน ไปทำงานอะไรก็ตาม นี้ส่วนหนึ่ง แต่พอทำเสร็จแล้ว กลับมาอยู่ที่ตัวเองให้ได้ กลับมาเรียนรู้ตัวเอง อย่าเอาเวลาไปเล่นเพลินๆ อยู่กับโลก เสียเวลา แรกๆ ก็รู้สึกว่าเป็นการให้รางวัลแก่ชีวิต
เมื่อก่อนมีคนหนึ่ง เขาบอกคุณแม่ชี บอกว่าอย่ามาห้ามเขาเลย เขาจะดูซีรีส์ เขาจะนอนดึกอย่างไร เขากำลังให้รางวัลแก่ชีวิตตัวเอง อ้าว ก็คิดอย่างนั้นก็ไปแบบนั้น แต่ถ้าเรารู้ว่านั่นคือการทำลายชีวิตตัวเอง ทำให้ตายเปล่าๆ ไป ทำให้กิเลสที่ยังไม่เกิดก็เกิด กิเลสเกิดแล้วก็แรงขึ้น เรารู้อันนั้นไม่ใช่สาระแก่นสาร
ฉะนั้นหมดเวลาทำงาน กลับมาเรียนรู้กายรู้ใจของตัวเองไว้ มีวินัยในตัวเอง แล้วเวลาว้าเหว่ใจขึ้นมาก็นึกถึงครูบาอาจารย์ เราจะรู้เลยว่าครูบาอาจารย์ไม่เคยทิ้งเรา มีแต่เราล่ะทิ้งครูบาอาจารย์ ทิ้งไปหารูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะทั้งหลาย ทิ้งไปหาเรื่องราวคิดนึกทั้งหลาย แต่ถ้าใจเราปฏิบัติอยู่ เราจะรู้สึกว่าครูบาอาจารย์มองเราอยู่ เราจะไม่เป็นลูกกำพร้าหรอก ไม่ว้าเหว่ หรอก
ภาวนาแล้วรู้สึกว่าตัวเองร้ายขึ้น สมาธิไม่พอ จิตชอบจมลงไปในสภาวะ พอเห็นกิเลสตัวเองบ้าง ภาวนาไม่ค่อยก้าวหน้า
วัดสวนสันติธรรม 29 มิถุนายน 2567