ทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
พระพุทธเจ้าสอนธรรมะเราครอบคลุม ท่านบอกให้ละบาป อกุศลทั้งปวง อย่าทำ
ทำกุศลให้ถึงพร้อม คือศีล สมาธิ ปัญญา มีศีลอย่างเดียว ไม่พอ มีสมาธิอย่างเดียว ไม่พอ มีปัญญาอย่างเดียว ก็ไม่พอ ถ้ามีปัญญาแล้วไม่มีศีลกำกับ มันจะเป็นปัญญามหาโจร ไม่มีสมาธิกำกับ ตอนไปเดินปัญญามันจะฟุ้งซ่าน
ศีล สมาธิ ปัญญา เหมือนเส้าสามก้อน ก้อนหินสามก้อน ที่คนโบราณเขาไว้หุงข้าว วางสามอัน เอาออกอันเดียว ก็ล้มหมดแล้ว หม้อข้าวแตก ฉะนั้นต้องมีครบ ศีล สมาธิ ปัญญา
ชั่วต้องละ ดีต้องเจริญ
แล้วท่านก็ไม่ได้สอนว่า ให้ทำความดีให้ถึงพร้อมอย่างเดียว ท่านเริ่มต้น ไม่ทำบาป อกุศลทั้งปวง ชั่วต้องละ ดีต้องเจริญ ฝึกไปเรื่อย จิตก็จะผ่องแผ้วไปเรื่ิอย ไม่อย่างนั้นมันทำไม่ได้จริงหรอก กระทั่งภาวนาดีไประดับหนึ่ง ดูกิเลสไม่ออก เวลาเราภาวนาไป กิเลสมันยิ่งละเอียดขึ้นเรื่อยๆ สติปัญญาของเราละเอียดแค่ไหน กิเลสละเอียดกว่าทุกที มันพัฒนาตัวเอง พอกิเลสละเอียด ดูไม่ออกแล้ว เห็นแต่กิเลสคนอื่น กิเลสตัวเองไม่เห็น
พวกภาวนาดีๆ กิเลสพวกมานะ อัตตา พวกกูแน่ กูหนึ่ง กูถูก มันเยอะขึ้นๆ มันแสดงออกมาเต็มที่ กระทั่งพวกผู้ช่วยสอนก็ต้องหัดดู เรื่องมานะอัตตากิเลสหยาบๆ สู้ได้ กิเลสละเอียด มองไม่เห็น ส่วนพวกเรานี้ กิเลสหยาบๆ อย่าไปยอมแพ้มัน อย่าไปยอมแพ้ ต้องสู้ ของฟรีไม่มีหรอก ต้องต่อสู้เอาทั้งสิ้น
ชั่วต้องละ ดีต้องเจริญ :: หลวงพ่อปราโมทย์ 29 มิ.ย. 2562 (ไฟล์ 620629 ซีดี 82)