อริยสัจแห่งจิต… หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

ก่อนที่หลวงพ่อจะเจอหลวงปู่ดูลย์ เคยไปอ่านหนังสือของหลวงปู่แหวน ซึ่งวัดสัมพันธวงศ์เขาพิมพ์ เขาเหลือที่อยู่หน่อยหนึ่งเขาก็เอาธรรมะอริยสัจแห่งจิตของหลวงปู่ดูลย์ไปลงไว้ ตอนนั้นท่านใช้ชื่อพระรัตนากรวิสุทธิ์ ไปดูแล้ว โอ้ เห็นแล้วน่าทึ่งนะ ท่านบอกว่า

จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้ง เป็นนิโรธ

มีอีกบทหนึ่งนะ พวกเรามักจำกันได้บทเดียว ช่วยกันจำอีกบทหนึ่งไว้ด้วยอย่าให้สูญหายไป ท่านสอนว่า

อนึ่ง ตามสภาพที่แท้จริงของจิต ย่อมส่งออกนอก
เพื่อรับอารมณ์นั้นๆ โดยธรรมชาติของมันเอง
ก็แต่ว่า ถ้าจิตส่งออกนอกได้รับอารมณ์แล้ว
จิตเกิดหวั่นไหวหรือเกิดกระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้น เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตหวั่นไหวหรือกระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้นๆ เป็นทุกข์
ถ้าจิตที่ส่งออกนอกได้รับอารมณ์แล้ว แต่ไม่หวั่นไหว
หรือไม่กระเพื่อมไปตามอารมณ์นั้นๆ มีสติอยู่อย่างสมบูรณ์ เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตไม่หวั่นไหว หรือไม่กระเพื่อม
เพราะมีสติอยู่อย่างสมบูรณ์ เป็นนิโรธ
พระอริยเจ้าทั้งหลายมีจิตไม่ส่งออกนอก จิตไม่หวั่นไหว
จิตไม่กระเพื่อม เป็นวิหารธรรม จบอริยสัจ ๔

คำว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายหมายถึงพระอรหันต์นะ พระอรหันต์ก็ยังมีจิตที่ออกนอกเพราะธรรมดาจิตย่อมส่งออกนอกเพื่อรับรู้อารมณ์ทั้งหลายทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ แต่จิตของพระอรหันต์นั้น เมื่อออกนอกแล้วไม่กระเพื่อมหวั่นไหว เป็นธรรมดาอยู่อย่างนั้นเอง ความต่างมันมีแค่นี้เอง ถ้าพูดภาษาปริยัติก็พูดได้ว่า ชวนจิตของพระอรหันต์ท่านเป็นมหากิริยาจิต ไม่ใช่มหากุศลจิตหรืออกุศลจิตที่ฟูขึ้นแฟบลงอย่างผู้อื่น ที่จิตใจท่านไม่มีความกระเพื่อมหวั่นไหวแล้ว เพราะว่าอะไร เพราะว่าไม่มีอะไรกระทบเข้ามาถึงจิตถึงใจได้ จิตกับขันธ์นั้นมันพรากเด็ดขาดจากกันออกไป ไม่มีอะไรกระทบกระเทือนเข้ามาถึงจิตอีก จิตมันจึงไม่กระเพื่อมหวั่นไหว ท่านก็แสดงกิริยาอาการอะไรเป็นไปตามความเคยชิน บางองค์ท่าทางใจดีก็ใจดีไป ท่าทางดุก็ดุไป ไม่มีการเสแสร้งแกล้งทำอะไรหรอก

 

จากหนังสือประมวลธรรม ๓ เสียงเทศน์วันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๙