กลัวความตายมาก เบื่อโลก รู้ทันก็ไม่ดับ และเครียด อยากได้วิธีสู้กับมัน

คำถาม:

มีกิเลสอยู่ 3 ตัวที่มักจะสู้ไม่ไหว อย่างแรกคือผมกลัวความตายมากมาตั้งแต่เด็ก เคยกลัวจนนอนไม่ดีเป็นเดือน เพราะคิดว่าถ้าหลับแล้วอาจไม่ตื่นอีก กระทั่งคิดจะไปหาจิตแพทย์ เพราะไม่รู้ว่าตายแล้วจะสูญไหมหรือจะเกิดอะไรขึ้น บุญก็ทำเนืองๆ ศีลก็พยายามรักษาไม่ให้ขาด ภาวนาต่อเนื่องก็แล้ว แต่มันก็ยังไม่อุ่นใจจริงๆ สักที อย่างที่สองคือความเบื่อโลก ถ้าเป็นแบบนั้นมักจะเข้าสมาธิไม่ได้และถึงจะรู้ทันก็ไม่ดับ สุดท้ายคือความเครียด อยากได้วิธีสู้กับมันครับ

 

หลวงพ่อ:

รากเหง้าของทั้ง 3 ปัญหา มันมีอันเดียวคือการรักตัวเอง พอเรามีความรักตัวเองใช่ไหม เรากลัวมันตาย กลัวจะสูญเสียมันไป แล้วตัวอื่นๆ มันก็มาจากตรงนี้ทั้งหมดล่ะ ความกังวล ความอะไรนี่ มันก็เกิดจากรักตัวเองทั้งหมดเลย ฉะนั้นยาที่ตรงที่สุดเลย ก็คือดูลงมา สิ่งที่เรียกว่าตัวเราๆ นี่ มันเป็นตัวเราจริงไหม ร่างกายนี้เป็นตัวเราจริงไหม ดูให้ดี ร่างกายเป็นวัตถุใช่ไหม เรายืมธาตุของพ่อของแม่มานิดหน่อย เราก็อาศัยอาหาร อาศัยน้ำ อาศัยอากาศของโลก มีธาตุหมุนเวียนอยู่ ฉะนั้นร่างกายจริงๆ ก็ไม่ใช่ตัวเราของเรา มันเป็นสิ่งที่เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว ตัดตรงเข้าไปดูตรงนี้เนืองๆ ถ้าทำตรงนี้ได้ ตัวอื่นเราจะแก้ได้เอง มันมาจากความกลัวตาย กลัวตายก็เกิดจากการที่มันรักตัวตนนี้ แต่ถ้ามันเห็นว่านี่มันไม่ใช่ตัวตนของเราหรอก เป็นของโลก เรายืมโลกมาใช้

ถ้าใจมันลดความรักในตัวตนล่ะก็ใจมันก็จะไม่ทุรนทุราย ไม่กลัว ไม่กังวล ถ้าอย่างนั้นแก้ปัญหาก็ตรงจุดนี้เลย แต่ถึงเวลาไหว้พระสวดมนต์ก็ทำไป เพื่อเพิ่มกำลังของสมาธิ ความดีมีโอกาสทำก็ทำ โอกาสไม่มีก็แล้วไป อย่างการทำบุญทำทานอย่างอื่น ไม่มีโอกาสก็แล้วไป บุญสูงสุดมันก็บุญจากการภาวนานี้ล่ะ ฉะนั้นการภาวนาที่ดีก็เป็นการภาวนาที่ประกอบด้วยปัญญา ก็ดูลงมาในร่างกายนี้ที่เรารัก ที่เราหวงแหนนี้ เป็นแค่วัตถุ เป็นแค่ธาตุที่ไหลเวียน ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ค่อยๆ สอนมันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจิตก็จะผ่านตัวนี้ได้

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 1 สิงหาคม 2564