รู้สึกตัวเองมีโมหะและโทสะมาก มีความตึงเครียดกับปัญหาทางโลก จนทำให้มึนและหนักศีรษะอยู่บ่อยๆ

คำถาม:

ปัจจุบันปฏิบัติในรูปแบบช่วงก่อนนอนและระหว่างวัน เท่าที่จะหาเวลาได้ รู้สึกตัวเองมีโมหะและโทสะมาก มักฟุ้งซ่านบ่อย และมีความตึงเครียดกับปัญหาทางโลก จนทำให้มึนและหนักศีรษะอยู่บ่อยๆ พยายามรู้ทันจิตตนเองให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ กราบหลวงพ่อชี้แนะการปฏิบัติครับ

หลวงพ่อ:

เรารู้จิตตัวเอง เราอยากให้จิตสุข จิตสงบ จิตดี ตัวนี้มันยังอยากอยู่ ฉะนั้นมันยังไม่สงบง่าย พยายามดูลงในร่างกายเรื่อยๆ ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก ร่างกายแลบลิ้น รู้สึก ร่างกายพยักหน้า รู้สึกอะไรอย่างนี้ รู้สึกกายไปเรื่อยๆ จะรู้สึกไปถึงเมื่อไร ไม่ต้องสนใจหรอก รู้สึกไปเรื่อยๆ แล้วจิตมันจะมีแรงขึ้นมา

เวลาที่เราทำงานที่เครียด ไปดูจิตไม่ได้หรอก ดูกายไปก่อน หลวงพ่อเมื่อก่อนทำงาน ช่วงไหน ทำงานแล้วเครียด หลวงพ่อดูกาย เดินไปห้องน้ำอย่างนี้ เดิน รู้สึก ร่างกายมันเดิน จิตเป็นคนรู้สึก เดี๋ยวจิตมันก็มีแรงขึ้นมา

ชีวิตเราเหน็ดเหนื่อย มันเหนื่อยมาก รู้สึกร่างกายไป แล้วก็สอนจิตไปเรื่อยๆ โลกนี้เป็นของชั่วคราวหรอก เราเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ของเรา หน้าที่ต่อครอบครัว หน้าที่ต่อตัวเอง ต่อจิตใจของเราเอง เราเกิดมาทำหน้าที่ ฉะนั้นอย่าไปเบื่อ อย่าไปเกลียดมัน ที่เบื่อเพราะกิเลส เพราะโทสะ

ถ้าเราคอยรู้สึกๆ ตัวเรื่อยๆ ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก จิตมีแรงขึ้นมา เราก็ทำหน้าที่ของเราไป คราวนี้ไม่ได้ทำด้วยโทสะแล้ว ทำเพราะว่ามันสมควรจะทำ มันเป็นหน้าที่ แล้วสิ่งที่เราต้องทำ มันก็มีความสุข บางคนทำงาน น่าสงสาร เงินเดือนก็เยอะ แต่ไม่มีความสุข บางคนทำงานหาบของขาย เร่รถขาย แค่นี้วันๆ มีความสุข ไม่รู้ใครฉลาดกว่าใคร

ฉะนั้นถ้าเราทำงานไปแล้วใจเราคับข้องใจ อึดอัด ลำบาก ทำความรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ สมควรจะทำ เราก็ทำตามหน้าที่ของเรา แล้วเรารู้สึกร่างกายเรื่อยๆ เรื่อยๆ จิตมีแรง แล้วก็ไปทำงาน รู้สึกมันเป็นหน้าที่ การทำหน้าที่ของเรา ก็เป็นประโยชน์ๆ ค่อยๆ ดูไป ชีวิตจะได้มีความสุขมากกว่านี้ เหนื่อย รู้สึกไหม โคตรเหนื่อยเลย วันๆ หนึ่ง เออ หัดมีความสุขเสียบ้าง คนรอบตัวเขาจะได้ยิ้มออก

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 02 กรกฎาคม 2566