โดนผู้อื่นทำให้ไม่พอใจ และตอบโต้ด้วยการเบียดเบียน ทำให้การภาวนาแย่ลง ตอนนี้กลัวการทำอกุศลมาก ทั้งยังชื่นชมคนที่เบียดเบียนผม แล้วจิตเขายังดี

คำถาม:

ในรูปแบบ ดูกายสะเทือนและดูความรู้สึก ตั้งแต่โดนผู้อื่นทำให้ไม่พอใจ และตอบโต้ด้วยการเบียดเบียน ทำให้การภาวนาแย่ลงเยอะ และเสียความสามารถในการดูความรู้สึกไป แต่ยังดูกายสะเทือนได้ ไม่เคยทำสมถะพุทโธได้ ตอนนี้กลัวการทำอกุศลมาก ทั้งยังชื่นชมคนที่เบียดเบียนผม แล้วจิตเขายังดี อาจเป็นเพราะเขาทำบุญมามาก อยากกลับมาภาวนาดีเร็วๆ ขอความเมตตาชี้แนะด้วยครับ

หลวงพ่อ:

บางทีคนที่หวังดีกับเรา เขาบอก เขาเตือนอะไร เราไปรู้สึกว่าเขาเบียดเบียนเรา ทำไมจิตเขาไม่เสื่อม เพราะเขาไม่ได้ทำอกุศล ทำไมจิตเราเสื่อม เพราะจิตเราเป็นอกุศล มันไม่เฉพาะว่าบุญเก่าเขาดีหรอก สมมติว่าบุญเก่าเขาดี แต่เขามาเบียดเบียนเราด้วยกิเลส เขาทำกรรมใหม่ที่ชั่ว อย่างไรก็ต้องรับผล แต่ถ้าเขาภาวนาดีขึ้นๆ ฉะนั้นแทนที่เราจะดูว่าเขาเบียดเบียนเรา เราย้อนมาดูจุดอ่อนของเราเอง จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง เราไปทำอะไร ทำไมเขาว่าเรา ถ้าคนพาลใครเขาว่าเรา เราก็บอก เอ๊ะ ทำไมมาว่าเรา มารังแกเรา แต่บัณฑิตจะดูที่เขาด่าเรา มีเหตุผลอะไร เรามีข้อบกพร่องอะไร คนพาลจะดูจุดอ่อน ข้อบกพร่องของคนอื่น บัณฑิตจะดูจุดอ่อน ดูข้อบกพร่องของตัวเอง ฉะนั้นเราเรียนดูตรงนี้ให้มาก

สังเกตไหมจิตขณะนี้ กับจิตเมื่อกี้ก็ไม่เหมือนกันแล้ว เมื่อกี้มันมืดตึ้ดตื๋อเลย รู้สึกหรือเปล่า ตอนนี้มันค่อยตื่น มันค่อยเบิกบานขึ้นมา เพราะมันได้ฟังธรรมะที่พอดีกับใจเรา เลิกการเพ่งโทษคนอื่น หันมาเห็นข้อไม่ดีของเราเองให้เยอะๆ แล้วชีวิตจะดีขึ้น ทั้งทางโลก ทั้งทางธรรม

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 08 กรกฎาคม 2566