รู้สึกว่ากิเลสเบาบางลง สิ้นสงสัยในพระรัตนตรัยแล้ว ผมติดวิปัสสนูปกิเลสไหม

คำถาม:

ผมเปลี่ยนวิหารธรรมเป็นรู้ทันจิตที่คิด เพราะทำงานที่ใช้ความคิดมาก หวังผลน้อยลง รู้สึกว่ากิเลสเบาบางลง สิ้นสงสัยในพระรัตนตรัยแล้ว ติดวิปัสสนูปกิเลสไหม ควรปรับปรุงตรงไหนบ้างครับ

หลวงพ่อ:

เราก็สังเกตเอา เวลาเราไม่ได้จงใจจะรู้ มันมีความรู้สึกไหมว่าจิตนี้คือตัวเรา ไปสังเกตเอา วิธีที่จะสังเกต อย่าให้จิตติดอยู่อย่างตอนนี้ ถ้าจิตติดอยู่ตรงนี้เรียกว่าจิตมันติดสมาธิอยู่ มันจะไม่เป็นธรรมชาติธรรมดา เราจะไม่เห็นตัวจริงของมัน ถ้าจิตเป็นปกติ จิตเป็นธรรมดา ตอนที่ไม่ได้คิดเรื่องปฏิบัตินั่นล่ะ แล้วสังเกตแวบหนึ่ง มันจะเห็น จิตมันจะมีตัวเราไหม รู้สึกไหมว่าจิตเป็นเรา สังเกตเอา วิญญูชนรู้ด้วยตัวเอง ที่ฝึกอยู่ใช้ได้ ที่ฝึกอยู่ดี ส่วนจะได้ผล อย่างไรไปสังเกตกิเลสเอา

เวลาเราภาวนา บางทีเราก็คิดว่าเราได้มรรคผลชั้นนั้นชั้นนี้ เมื่อไม่กี่วันนี้ก็มี มีเด็กคนหนึ่ง อยู่ๆ ก็คิดว่าเป็นพระอรหันต์แล้ว ยังไม่มีสติเลยจะมาเป็นพระอรหันต์ วิธีการที่จะสังเกตก็ดู มีกิเลสอะไรบ้าง อย่างถ้าเรายังมีราคะ มีโทสะครอบงำใจเราได้ ก็ไม่ใช่พระอนาคามี หลวงพ่อเคยแก้กรรมฐานให้พระองค์หนึ่งตอนนั้น แต่ตอนนี้สึกไปแล้ว เขาคิดว่าจบแล้ว หลวงพ่อก็ถาม เห็นไหมยังรักษาจิตอยู่ ประคองจิตอยู่ เห็น บอกนี่ไม่ใช่พระอรหันต์หรอก จิตยังไม่ได้เป็นอิสระเลย ยังบังคับอยู่เลย พอบอกว่าไม่ใช่พระอรหันต์ จิตแกเหี่ยวฉับพลันเลย เศร้าเลย บอกนี่โทสะ เห็นไหม โทสะเกิดแล้ว ไม่ใช่พระอนาคามีหรอก ไล่ๆๆ ไปเรื่อยๆ ดูจากกิเลส แล้วกิเลสเราจะดูเห็นตอนที่เราไม่ได้บังคับจิตอย่างขณะนี้ ถ้าจิตทรงนิ่งอยู่อย่างนี้ มันจะว่างๆ ไม่มีอะไรให้ดูหรอก ฉะนั้นอย่าไปเพ่งไว้ ปล่อย

ปล่อยให้จิตใจมันทำงานแล้วเราจะสังเกตออก สักกายทิฏฐิเราหมดไปหรือยัง สักกายทิฏฐิเราต้องเข้าใจอย่าง สักกายทิฏฐิไม่ได้เกิดตลอดเวลา บางคนคิดว่าปุถุชนต้องมีสักกายทิฏฐิตลอดเวลา ไม่ใช่ สักกายทิฏฐิเป็นกิเลสก็เกิดขึ้นเป็นคราวๆ เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าจิตเราไปทรงสมาธิอยู่ จิตเป็นบุญ เป็นกุศลอยู่ ไม่มีกิเลส ไม่มีกิเลสไม่ใช่ว่าไม่มีกิเลสแน่นอน ถ้าเมื่อไรจิตเราไม่ทรงสติ ทรงสมาธิที่ดีอยู่ กิเลสที่นึกว่าไม่มี อาจจะมีก็ได้ ฉะนั้นเราสังเกตตรงนี้ล่ะ ค่อยๆ ดูเอา แต่สรุปอย่างหนึ่งก็คือภาวนาดี ที่ทำอยู่ดี ไปทำต่อแล้วสังเกตเอา

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 9 มกราคม 2565