อยากทราบเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ท่านมีความทุกข์มาก ถ้าเราทำหน้าที่นี้ไม่ดี จะขัดขวางการภาวนาของเราหรือไม่

คำถาม:

ทำในรูปแบบโดยการสวดมนต์ เดินจงกรมตอนเช้า วันละ20นาที ระหว่างวันรู้สึกถึงร่างกายที่เคลื่อนไหว ขยับนิ้วหรือขยับขา การภาวนารู้สึกเป็นธรรมชาติขึ้น เพราะมีวินัยในการทำรูปแบบ อยากทราบเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ท่านมีความทุกข์มาก ถ้าเราทำหน้าที่นี้ไม่ดี จะขัดขวางการภาวนาของเราหรือไม่คะ

หลวงพ่อ:

ต้องทำหน้าที่ให้ถูก พ่อแม่มีความทุกข์ ไม่ใช่เราต้องไปทุกข์ด้วย พ่อแม่มีความทุกข์ อย่างไม่สบายมาก เราต้องไม่ทุกข์ ใจเราต้องตั้งมั่นเป็นกลาง แล้วก็มองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ คนเราแต่ละคนมีความทุกข์ เขามีกรรมเป็นของตัวเอง เบอร์ 3 เห็นไหม ใจเราไม่ได้เป็นกลาง ตัวนี้ต้องแก้ ต้องรู้เท่าทันตัวเอง ถ้าจิตเราไม่เป็นกลาง เห็นพ่อแม่ทุกข์ เราก็ทุกข์ไปด้วย บอก แหม ร่วมทุกข์ ร่วมทุกข์ร่วมสุข เหมือนสำนวนนวนิยาย ถ้าสำหรับนักปฏิบัติ เราเห็นคนที่เรารักมีความทุกข์ ใจเราต้องเป็นกลางก่อน แล้วดูว่าเราจะช่วยเขาได้อย่างไร ไม่ใช่ไปร้องไห้ กอดคอกันร้องไห้ทั้งบ้านอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่ อันนั้นไม่ใช่ความกตัญญูหรอก อันนั้นใครๆ ก็เป็น ไม่ต้องฝึกกรรมฐาน

ฉะนั้นสังเกตที่ใจเรา อย่าให้จมลงไปในความทุกข์ ให้พ่อแม่ทุกข์ เรายังต้องไม่ทุกข์ ไม่อย่างนั้นเราจะช่วยอะไรคนอื่นก็ไม่ได้หรอก เพราะเราก็ทุกข์ไปเหมือนกัน พอใจเราเป็นกลาง ใจเราไม่ทุกข์ สติปัญญามันก็จะเกิด มันจะรู้ว่าเราจะช่วยได้แค่ไหน จะช่วยอย่างไร จะช่วยได้แค่ไหน การช่วยคนอื่นนั้น ไม่มีใครช่วยได้ทั้งหมดหรอก แต่ละคนเขาก็มีลิมิต มีกรรมของเขา เราช่วยเท่าที่ช่วยได้ ต้องวางใจอย่างนี้

ฉะนั้นเรามีเมตตา มีกรุณา เห็นเขาทุกข์ เรามีกรุณา แต่ถ้าเราไม่มีอุเบกขา เราก็ทุกข์ไปด้วย ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คล้ายๆ ในบ้านมีคนทุกข์มากขึ้นอีก 1 คนเท่านั้นเอง เข้มแข็งไว้ ที่เราทุกข์เพราะเราอยากให้พ่อแม่ไม่ทุกข์ ไปดูตัวนี้ให้ออก ความอยากของเราล่ะ ทำให้เราไปดูดซับเอาความทุกข์เข้ามาในใจของเราเอง รู้ให้ทันตัวนี้ ตัวอยาก

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 10 กุมภาพันธ์ 2567