คำถาม:
หลวงพ่อ:
ก็หัดตั้งแต่ยังไม่ได้ลางานนี่ล่ะ ทำงานแล้วก็ปฏิบัติได้ เวลาที่เราทำงาน สติจดจ่ออยู่กับงาน สมาธิจดจ่ออยู่กับงาน ปัญญาค้นคว้าพิจารณาใคร่ครวญเรื่องงาน อยู่ในอารมณ์เดียว ไม่วอกแวกไปที่อื่น ได้สมาธิชนิดสงบ
เพราะฉะนั้นเวลาที่เราทำงานไปเรื่อยๆ ถ้าทำด้วยความสบายใจล่ะก็เราได้สมาธิชนิดสงบ แล้วพอเลิกทำงาน เราก็มารู้สึกที่ร่างกาย เวลาเราทำงานเยอะๆ คิดเยอะๆ อย่ามาดูจิตเลย ให้ดูกายก่อน พอจิตมันมีแรง เดี๋ยวมันขึ้นมาดูจิตได้
ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน เราก็ต้องปฏิบัติ จะได้ลางานหรือไม่ได้ลางานก็ต้องปฏิบัติ ถ้าเราคิดว่าตอนนี้ทำงานก่อน เดี๋ยวทำงานให้เสร็จแล้วจะไปปฏิบัติ ลางาน อันนี้ยังไม่ดี ทำงานมีเวลา 5 นาที 10 นาที หรือเราขึ้นรถไฟฟ้าจะไปทำงานอะไรนี่ ภาวนาได้ตลอด รู้สึกกายรู้สึกใจไป ถึงเวลาทำงานก็ทำงาน ทำงานแล้วเวลาเราเบรก เราพัก อย่างเราจะกินน้ำ เราจะเดินไปห้องน้ำ จะกินข้าวอะไรอย่างนี้ ก็มีสติไป
ถึงเวลากลับมาบ้าน อาบน้ำพักผ่อนพอสมควร ก็ลงมือทำในรูปแบบ นั่งสมาธิ เดินจงกรม วันไหนง่วงก็เดินเอา วันไหนจิตมีกำลังก็อาจจะนั่งเอาหรือเดินเอาก็ได้ ถึงเวลาไปอยู่วัด ระวังจะโดนมันหลอก หลวงพ่อโดนมาก่อนเลยพูดเต็มปาก พอไปถึงวัด เราจะสร้างความเพียรให้เต็มเหนี่ยวเลย ให้คุ้มค่ากับที่เราลางานมาได้ พยายามมากเลย เละเลย ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลย ที่จริงก็คือไปอยู่วัดก็คือภาวนาเหมือนเดิม เพียงแต่มีเวลาเยอะขึ้น ไม่ต้องไปทำมาหากินเท่านั้นเอง อย่าไปนึกว่าการภาวนาต้องอยู่วัด การภาวนาไม่ได้อยู่ที่วัด การภาวนาไม่ได้อยู่ที่บ้าน การภาวนาอยู่ที่ปัจจุบัน
วัดสวนสันติธรรม 12 พฤษภาคม 2567