จิตฟุ้งซ่านทำอย่างไรดี

คำถาม:

สมาธิเสื่อม ฟุ้งซ่าน อยากดี เพ่ง แก้ไม่หาย จิตไม่ค่อยยอมเดินปัญญา เข้าใจว่าสมาธิไม่พอ พยายามเพิ่มพุทโธรู้สึกตัว รู้ทันจิตที่ไหลไปคิดระหว่างวัน เคยรู้สึกว่าร่างกายคือตัวอะไรสักอย่างที่แยกจากเรา แต่ช่วงนี้ไม่รู้สึกอีก อยากรู้ว่าจิตเดินปัญญาจริงๆ บ้างไหมคะ

หลวงพ่อ:

มันยังไม่เดินหรอก มันเดินปัญญาสมาธิมันต้องพอ เพราะตอนนี้จิตมันฟุ้งซ่าน จิตฟุ้งซ่านทำอย่างไรดี จุดธูปอ้อนวอน “จิตเอ๋ย จงสงบ” มันทำไม่ได้ เราไปสั่งจิตว่า “จงอย่าฟุ้งซ่าน” ก็สั่งไม่ได้ จิตฟุ้งซ่านเพราะมันไม่มีเรี่ยวมีแรง มันเที่ยววิ่งตะครุบอารมณ์นั้นทีอารมณ์นี้ที นี้เราอยากให้มันมีกำลังขึ้นมา มีเรี่ยวมีแรงขึ้นมา เราหาอารมณ์ให้มันอยู่ อยู่กับพุทโธๆๆ ไปเรื่อยๆ ก็ได้ ง่ายๆ อย่างนี้ล่ะ พุทโธไปเรื่อยๆ ไม่ต้องหวังว่าจิตจะสงบ ถ้าพุทโธๆ สงบเสียที พุทโธๆ สงบๆ พุทโธๆ ไม่สงบหรอก เหมือนเราจะนอนหลับ นอนเล่นๆ ไปเดี๋ยวก็หลับแล้ว พออยากนอนหลับ จงหลับๆๆ ไม่หลับหรอก

เพราะฉะนั้นจะให้จิตสงบ ก็อย่าไปเคี่ยวไปเข็นมัน ก็รู้มันไป หายใจไปพุทโธไป สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง ทำกรรมฐานแบบนี้ ไม่ใช่ทำแล้วหวังจะสงบ มันจะไม่สงบหรอก ถ้าทำแล้วไม่ได้หวังว่าจะต้องสงบ มันจะสงบ แล้วเวลาเราทำกรรมฐาน ก็อย่าแต่งจิตให้มันหวานๆ แบบนี้ ไม่ต้องไปแต่งจิตให้ แหม มันนุ่มนวล ดูดีอะไรอย่างนั้น ไม่ต้อง จิตฟุ้งซ่านรู้ว่าฟุ้งซ่านไป แล้วก็พุทโธๆ ของเราไป มันอยากฟุ้งก็เรื่องของมัน พุทโธๆ เดี๋ยวมันก็สงบเอง ไม่ต้องไปแต่งจิตให้สงบ

ยังมีความพยายามจะแต่งจิตให้สงบ ไม่ต้องแต่งหรอก ไปปรับตรงนี้ ไม่ต้องไปแต่งมัน บริกรรมไปเรื่อยๆ สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง สงสัยแล้วรู้ไหม สงสัยก็รู้เอา แล้วก็ไปอยู่กับคำบริกรรมของเราต่อ รู้สึกไหมจิตตรงนี้กับเมื่อกี้ไม่เหมือนกันแล้ว จิตตรงนี้มีกำลังมากกว่าเมื่อกี้แล้ว สงบกว่าเมื่อกี้ จุดอ่อน คิดเยอะไป ไม่คิดนะ พุทโธๆ ไปเรื่อยๆ สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง ไม่ต้องค้นคว้า ยังไม่ใช่เวลาเจริญปัญญา

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 15 ตุลาคม 2565