คำถาม:
หลวงพ่อ:
ดูไปเรื่อยๆ ร่างกายไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรา พิจารณาลงไปเรื่อยๆ จนใจวางจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ได้วางจริง ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกไป กายนี้ไม่ใช่ของดีของวิเศษ กายนี้คือตัวทุกข์ ดูซ้ำๆๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใจไม่สะเทือนไม่หวั่นไหวเพราะความเจ็บป่วยของร่างกาย ร่างกายเกิดมาแล้วอย่างไรก็ต้องแก่ต้องเจ็บต้องตาย ร่างกายเราเป็นธรรมะชนิดที่เรียกว่าวิบาก เป็นผลของกรรม ผลของกรรมดีทำให้เราได้เกิดเป็นคน ผลของกรรมไม่ดีก็ยังตามแทรกเข้ามาทำให้เจ็บป่วยอย่างนี้ ร่างกายนี้ไม่ใช่ของน่ายึดถืออะไร มันป่วยให้หมอรักษาไป เรามีหน้าที่รักษาจิตเอาไว้อย่างเดียวพอแล้ว กายทุกข์แต่จิตจะต้องไม่ทุกข์นะชาวพุทธ
ฉะนั้นภาวนาเรื่อยๆ ไม่ท้อถอย ครูของเราที่ดุร้ายก็คือความทุกข์นั่นละ ความเจ็บนั่นละ เป็นครูสอนธรรมะ ฉะนั้นอย่าไปเกลียดมัน ไม่ใช่หนี การเข้าฌานเข้าสมาธิก็เป็นการหนีทุกข์อย่างหนึ่ง แต่ถ้าจวนตัวจริงๆ ดูกายแล้วทรมาน สู้ไม่ไหวจริงๆ ก็เข้าสมาธิไป แต่เข้าสมาธิจะต้องเหลือร่างกายเอาไว้ ต้องเหลือรูปไว้ ถ้าเข้าไปถึงอรูปนี่พระศรีอริยเมตไตรยมาตรัส เราก็ไม่เจอท่าน ดูลงไปร่างกายก็เป็นอันหนึ่ง ความทุกข์ในร่างกายก็เป็นอันหนึ่ง ความยินดียินร้ายของจิตก็เป็นอีกอันหนึ่ง จิตที่เป็นคนรู้ก็เป็นอีกอันหนึ่ง ค่อยๆ ดูไป เรียนรู้ทุกข์ไป เรียนจนมันเข็ด ไม่อยากเกิดอีก เกิดทีไรก็ทุกข์อย่างนี้ล่ะ
วัดสวนสันติธรรม 15 ตุลาคม 2566