รู้สึกตัวเองเหมือนคนปฏิบัติไม่เป็น ชอบคิดว่าเป็นเพราะไม่ได้เรียนหนังสือจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย

คำถาม:

รู้สึกตัวเองเหมือนคนปฏิบัติไม่เป็น ชอบคิดว่าเป็นเพราะไม่ได้เรียนหนังสือจึงไม่รู้เรื่อง แต่ก็พยายามอยู่กับลมหายใจ ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมด้วยค่ะ

หลวงพ่อ:

เห็นร่างกายหายใจๆ ไปเรื่อยๆ สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง ไม่ต้องคาดไม่ต้องหวังอะไรทั้งสิ้น แค่เห็นร่างกายหายใจไปเรื่อยๆ ด้วยใจธรรมดาๆ ใช้ใจธรรมดาเห็นร่างกายหายใจไป

การเรียนหนังสือไม่ได้ช่วยให้ปฏิบัติดีกว่าคนไม่ได้เรียนหนังสือ ครูบาอาจารย์แต่เดิมไม่ค่อยได้เรียนหนังสือหรอก เป็นชาวไร่ชาวนา ตอนเด็กก็เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ต่อมาก็ไปไถนา ไปเกี่ยวข้าวอะไรอย่างนี้ ท่านก็ไม่ได้เล่าได้เรียนอะไรมากมาย แต่ว่าท่านเห็นทุกข์เห็นโทษของโลก เห็นว่าชีวิตนี้ไม่มีสาระแก่นสารอะไร ท่านเรียนรู้ความจริงจากของจริง ไม่ได้เรียนจากตำรา ก็เลยเห็นทุกข์

โลกนี้ไม่มีอะไรนอกจากทุกข์ โลกนี้ภาระทางโลกไม่มีวันสิ้นสุด ปีนี้ทำนา ปีหน้าก็ทำนา ปีโน้นก็ทำนา ชีวิตหาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้ ท่านเห็นอย่างนี้ ท่านก็ภาวนาได้ดิบได้ดี เป็นครูบาอาจารย์ให้พวกเรากราบไหว้

หลวงพ่อเรียนหนังสือก็ไม่น้อยหรอก แต่หลวงพ่อยังเคยเล่าให้พระด้วยกันฟัง หลวงพ่อเรียนหนังสือก็เยอะ หน้าที่การงานก็ดี แต่หลวงพ่อไปกราบ คำไม่เพราะหน่อย คนที่หลวงพ่อกราบตีน เป็นชาวบ้านๆ ครูบาอาจารย์ชาวบ้านๆ ทั้งนั้น ที่หลวงพ่อไปกราบไปไหว้ท่านเต็มไม้เต็มมือ พวกความรู้เยอะๆ เราก็ไหว้ตามมารยาท ตั้งแต่เป็นโยม แต่คนที่เรากราบเต็มไม้เต็มมือ คือท่านที่เรียนรู้ จากชีวิตจริง ไม่ได้เรียนจากตำรา

เพราะฉะนั้นการที่เราไม่ได้เรียนหนังสือไม่ใช่เรื่องเสียหาย เราเรียนจากความจริงในใจของเรา เราก็จะเห็นจิตใจของเรามัน ไม่เที่ยง เดี๋ยวก็สุข เดี๋ยวก็ทุกข์ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย เรียนรู้มันไปเรื่อยๆ ตอนไหนที่อ่านมันไม่ออก ก็มานั่งหายใจไป หายใจเข้า พุท หายใจออกโธ ใจเราสงบมีเรี่ยวมีแรง เราค่อยๆ สังเกตไป เดี๋ยวร่างกาย ก็เคลื่อนไหว เดี๋ยวจิตใจก็ทำงาน อย่างนี้เราก็จะ พ้นทุกข์ได้

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 24 มีนาคม 2567