ปฏิบัติในรูปแบบ มีเครื่องอยู่เป็นคำบริกรรม ใระหว่างวันรู้สึกว่ามีสติได้บ่อยขึ้น รู้สึกจิตมีกำลังมากขึ้น อดทนเข้มแข็งขึ้น ยอมรับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น

คำถาม:

ปฏิบัติในรูปแบบด้วยการสวดมนต์ เดินจงกรมพร้อมบริกรรมไปด้วย มีเครื่องอยู่เป็นคำบริกรรม ระหว่างวันรู้สึกว่ามีสติได้บ่อยขึ้น รู้สึกจิตมีกำลังมากขึ้น อดทนเข้มแข็งขึ้น ยอมรับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น เห็นถูกหรือคิดไปเองคะ

หลวงพ่อ:

เห็นถูก แต่ต้องทำอีก ทำไปเรื่อยๆ มันดีขึ้นแต่มันยังไม่พอ สมาธิมันดีขึ้น สมาธิมันก็ยังไม่พอ สังเกตไหมขณะนี้ จิตเราออกนอก ดูออกไหม จิตมันเคลื่อนไปอยู่ข้างนอก แล้วไปค้างนิ่งๆ อยู่ สังเกตออกหรือเปล่า เออ ไม่ออกก็บอกไม่ออก อย่ามาหลอก หลอกหลวงพ่อไม่ได้กิน ขณะนี้จิตเรายังไม่เข้ามา มันไม่เข้าฐาน อย่าไปดึงมัน อย่าดึง อย่าทำอย่างนี้ ยิ่งทำอย่างนี้จะยิ่งเคลิ้ม แล้วโมหะจะแทรก ยิ้มหวานซิ เห็นไหมร่างกายยิ้ม รู้สึกไหม หน้ามันกำลังยิ้ม พยักหน้า รู้สึกไหม ร่างกายขยับอยู่ รู้สึกกายไว้ แล้วสติ สมาธิ มันจะดีขึ้น อย่าทิ้งกาย

ดูจิตอย่างเดียวไม่ได้ อย่าทิ้งกาย เพราะจริงๆ เราเป็นคนรักสวยรักงาม รักร่างกายนี้มาก เราเอากายเป็นวิหารธรรมไว้ ทำไมบอกรักสวยรักงามให้ไปดูกาย เพราะกายมันจะสอนเราเอง ว่าไม่สวยจริงหรอก ร่างกายไม่สวยไม่งาม สกปรก มันจะสอน แล้วอีกอย่างการที่เรารักกาย แล้วเรามารู้สึกร่างกาย มันจะมีความสุข ให้ไปดูจิตไม่มีความสุข เพราะเรารักกาย เราคอยรู้สึกกายของเราทำอย่างโน้นอย่างนี้ มีความสุข สมาธิมันจะเกิด เพราะเรามีความสุข ร่างกายขยับเขยื้อนอะไร คอยรู้สึกไป คอยรู้สึกไว้ พยักหน้าอย่างนี้ รู้สึก รู้ไปด้วยใจธรรมดา ไม่เกร็ง ดีกว่าไปนั่งสมาธิ แล้วก็ใจเคลิ้มออกไปอย่างนี้ ไปแต่งมันเคลิ้มๆ อันนั้นไม่ดีเลย อันนั้นเป็นโมหะ ดูกายไว้

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 25 กุมภาพันธ์ 2566