เวลาคิดจิตจะดึงกลับมาที่กาย ระลึกเสมอว่าร่างกายไม่ใช่เรา แต่จิตก็ยังไม่ปล่อยวาง อุปสรรคในการปฏิบัติคือถีนมิทธะ หนักไปทางง่วง บางครั้งรู้ว่าง่วงขณะปฏิบัติแต่ฝืนไม่อยู่

คำถาม:

ปฏิบัติใช้หลักอานาปานสติ เวลาคิดจิตจะดึงกลับมาที่กาย แล้วแยกว่าสิ่งที่คิดเป็นกุศลหรืออกุศล เป็นสัญญาหรือสังขาร ระลึกเสมอว่าร่างกายไม่ใช่เรา แต่จิตก็ยังไม่ปล่อยวาง อุปสรรคในการปฏิบัติคือถีนมิทธะ หนักไปทางง่วง บางครั้งรู้ว่าง่วงขณะปฏิบัติแต่ฝืนไม่อยู่ ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะค่ะ

หลวงพ่อ:

ถ้าง่วงก็เคลื่อนไหวไว้ พระพุทธเจ้าสอนคาถาแก้ง่วงเอาไว้แล้วให้พระโมคคัลลานะ คิดถึงสัญญา พิจารณาความรู้ สาธยายมนต์ ยอนหู ถูตัว มองทิศเหนือทิศใต้ กำหนดแสงสว่าง อาโลกกสิณ ก็แก้ง่วงได้ แล้วก็เดินจงกรม สุดท้ายคือนอน สีหไสยาสน์ ง่วงจริงๆ ก็นอน แล้วตอนนอนสมมติเรานั่งสมาธิอยู่ แล้วจิตจะหลับนี่ ไม่ต้องฝืน อยากหลับให้หลับไป แล้วพอพักพอแล้ว มันรู้สึกขึ้นมา เรามีสติรู้เลยตั้งแต่จิตเคลื่อนขึ้นมา

ไม่ต้องฝืนหรอก จิตเหนื่อยเนไป จิตก็เลยอยากพัก ให้มันพักไป ทำได้ดี แต่กำลังของจิตยังไม่พอ เกิพราะฉะนั้นอย่าไปฝืน มันต้องการพักให้มันพัก ถ้ามันไม่ได้พักอยู่กับอารมณ์กรรมฐาน มันจะหลับก็ให้มันหลับ แต่ทันทีที่มีสติรู้สึก จิตเคลื่อนขึ้นมาจากภวังค์ รู้ไปเลย หรือรู้ตรงนี้ไม่ทัน ก็รู้สึกร่างกายเลย คือรู้จิตรู้กายต่อไปเลยจากตอนที่เคลื่อนขึ้นมาจากความหลับ ไม่ฝืน ถ้าฝืนอย่างนี้ อาการที่เป็นคือจิตพักไม่พอ มันไม่ได้ฌาน ก็ไม่ได้พัก แล้วเน้นเดินปัญญารวดไป จิตเหนื่อย

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม 25 มิถุนายน 2566