อย่าอ้างว่าไม่มีเวลา

การทำสมาธิชนิดสงบนี่มีเวลาว่าง 5 นาทีก็ทำ 5 นาที
อย่างเวลาเช้าๆ เรามานี่ มารอครูบาอาจารย์อยู่
มานั่งจะฟังธรรมอย่างนี้ เรามีเวลา 5 นาที
ก่อนที่ครูบาอาจารย์จะมาเราไม่รู้จะทำอะไรเราก็ทำความสงบ
หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ หรือกรรมฐานอะไรก็ได้
อย่าทิ้งเวลาเปล่าๆ เวลา 5 นาทีมีความสำคัญมากนะ
5 นาทีนี่รวมแล้ววันหนึ่ง สมมุติเราตื่นอยู่ 12 ชั่วโมง
ชั่วโมงละ 5 นาทีมันคือ 60 นาที 1 ชั่วโมงแล้ว
ที่เราได้ทำกรรมฐาน ถ้ามี 5 นาทีก็ทิ้ง 10 นาทีก็ทิ้ง
เหลือเวลาน้อย ใช้ไม่ได้หรอก ฟุ้งซ่านทั้งวัน
พอตกค่ำจะไปทำสมาธิ จิตมันฟุ้งซ่านมาเต็มที่แล้ว มันจะเหนื่อย
เหมือนเด็กเล่นซนมาเต็มที่แล้ว
พอเข้าบ้านก็เอาหัวซุกเข้าไปที่นอนหลับเลย
หัวซุกหมอนหลับเลย
บางคนไม่ถึงหมอนก็หลับกลางทางก็มี นี่เด็กมันซนมาก
ถ้าเราเก็บสแปร์เรื่อยๆ เก็บคะแนนไปเรื่อยๆ
ในระหว่างวัน 5 นาที 10 นาทีไม่ทิ้ง เก็บไปเรื่อยๆ

ในหลวงองค์ก่อนท่านภาวนาเก่ง
ท่านเคยเล่าไม่ใช่เล่าให้หลวงพ่อฟังนะ
เราไม่มีบุญบารมีเข้าใกล้ท่านอย่างนั้นหรอก
ท่านเล่าครูบาอาจารย์องค์ไหนหลวงพ่อจำไม่ได้แล้ว มันนานมาแล้ว
บอกว่าท่านแบ่งเวลาท่านซอยเวลาของท่านเป็นช่วงเล็กๆ
ท่านไม่มีเวลายาวๆ เป็นชั่วโมงๆ ที่จะมานั่งสมาธิ
งานท่านมาก ฉะนั้นท่านแบ่งเวลาเป็นช่วงเล็กๆ 5 นาทีนี้ว่าง
ท่านทำ 5 นาที ว่าง 10 นาที ทำ 10 นาที
ท่านถึงภาวนาเก่ง
ครูบาอาจารย์ที่หลวงพ่อไปศึกษาด้วยยกย่องมากว่าในหลวงท่านภาวนาดีมากๆ เลย เก่งมากๆ เลย
ไม่ธรรมดาในระดับไม่ธรรมดาเลย
นี่เพราะว่าท่านไม่ละเลยมีเวลา 5 นาที 10 นาทีก็ทำ
ฉะนั้นพวกเราทำ เราจะมาอ้างว่าไม่มีเวลาไม่จริงหรอก
ขนาดพระเจ้าแผ่นดินงานเยอะกว่าเรายังมีเวลาเลย
เรามันโง่เอง เราไม่ใส่ใจเราไม่สนใจที่จะฝึกตัวเอง
ใส่ใจที่จะฝึกตัวเองมันทำได้เต็มไปหมด
ยิ่งเป็นพระอย่างนี้เดินบิณฑบาตรมันคือเดินจงกรมนั่นล่ะ
ทำไมวันหนึ่งจะไม่มีเวลา
ไปรดน้ำต้นไม้พวกเราช่วยกันปลูกป่า
ตกเย็นเราไปรดต้นไม้กัน ไปใส่ปุ๋ยอะไรอย่างนี้
เราก็สามารถเจริญสติได้ตลอด

ถ้าเรามีสติจดจ่ออยู่กับการทำงานของเรา
เราจะได้สมถะได้สมาธิ แต่ถ้าเรามีสติอยู่
แล้วเรารู้ทันว่าใจเราหนีไปแล้ว เราจะได้สมาธิชนิดตั้งมั่น
ถ้าใจตั้งมั่น ใจเป็นผู้รู้ผู้ดูแล้ว
เห็นร่างกายเคลื่อนไหวใจเป็นคนดู
ร่างกายที่เคลื่อนไหวเป็นของถูกรู้ถูกดู
มันจะแสดงไตรลักษณ์ให้เราเห็น”

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
24 พฤษภาคม 2563