ส่วนแรกที่ต้องรักษา คือศีล จำไว้นะ พยายามดำรงชีวิตอย่างสุจริต พยายามฝึกจิตฝึกใจไปเรื่อย คอยรู้ทันจิตไปนะ กิเลสเกิด รู้ทัน อย่าให้มันครอบงำ รู้ทันกิเลส ใจก็มีกุศลมากขึ้น ๆ แล้วก็หัดรู้สภาวะของรูปธรรมนามธรรมทั้งหลาย จนกระทั่งสติมันเกิด แล้วก็ฝึกจิตไป จิตไหลไปแล้วรู้ ๆ ในที่สุดก็มีสมาธิ มีสติรู้รูปนามตามความเป็นจริงด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง จิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง คือจิตมีสมาธิ เมื่อมีสติรู้รูปรู้นาม รู้กายรู้ใจด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลางมากพอ ปัญญาจะเกิด จะเห็นแจ้งว่า รูปธรรมนามธรรมไม่ใช่ตัวตน เป็นแต่ตัวทุกข์ล้วน ๆ ตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ล้วน ๆ พอปล่อยวางได้ คุณงามความดีทั้งหลายก็สมบูรณ์แบบหมดเลย
พวกเราต้องเรียนหลักของการปฏิบัติให้แม่นๆ และเราต้องทำด้วยตนเอง
ชาวพุทธเราไม่มีของฟรีหรอก ทุกอย่างอยู่ในเรื่องกฏแห่งกรรม
ใครทำคนนั้นก็ได้ ไม่ทำก็ไม่ได้
ทำแบบไหนก็ได้แบบนั้น
ทำชั่วก็ได้รับผลของความชั่ว
ทำดีก็ได้รับผลของความดี
รักษาศีลก็ได้รับผลของศีล
ทำทานก็ได้รับผลของทาน
ทำสมถะได้ความสุข ได้ความสงบ ได้ความดี
ทำวิปัสสนาได้ปัญญาเห็นความจริง
เพราะฉะนั้นต้องทำให้ตรง
เวลาที่มรรคผลจะเกิด ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องพร้อม
ฉะนั้นเราต้องทำให้พร้อมนะ
ท่านบอก กุศลทำให้ถึงพร้อม ไม่ใช่เจริญปัญญาอย่างเดียวแล้วจะบรรลุได้
ศีลก็ต้องรักษา สมาธิก็ต้องทำ
ฉะนั้น ถ้าศีล สมาธิ ปัญญาไม่พร้อม
อริยมรรคก็ไม่เกิด
ต้องทำเหตุกับผลให้ตรงกัน
อยากได้ผลอย่างนี้ ก็ต้องทำเหตุอย่างนี้
Download PDF หนังสือศีล สมาธิ ปัญญา ในองค์มรรค
คลิกที่นี่เพื่อติดต่อขอรับหนังสือจากมูลนิธิสื่อธรรมหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช