เวลาภาวนา เหมือนมีเสียงบอกว่าพอเถอะ พรุ่งนี้ค่อยนั่งก็ได้ยังมีเวลา

เราคิดว่าชีวิตเราอาจจะมีวันนี้วันเดียว พรุ่งนี้อาจจะไม่มีอีกแล้ว เพราะฉะนั้นการภาวนานี่จะผัดเวลาไม่ได้ วันนี้พอแล้วพรุ่งนี้ค่อยทำ แล้วเกิดพรุ่งนี้ไม่มี ขาดทุนตายเลย เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อ กิเลสมันหลอกเรา ต้องพยายามคิดว่าเรามีชีวิตอยู่วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ถ้าคิดอย่างนี้ได้การภาวนาจะเข้มแข็งมากเลย ถ้าเราแต่ละคนคิดว่าวันนี้คือวันสุดท้าย ไม่ขี้เกียจหรอก จะรีบภาวนา ตั้งใจไว้ใหม่ อย่าไปเชื่อมัน

ป่วยหนักแล้วทำอย่างไร

อาศัยนาทีสุดท้าย ช่วงสุดท้ายของชีวิตนี่ล่ะเจริญสติไว้ แยกขันธ์ไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเหลือแต่ความเจ็บปวดจริงๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับร่างกาย ร่างกายไม่ได้เจ็บ เพียงแต่ความเจ็บมันมาอาศัยอยู่ในร่างกาย แล้วจิตใจก็ไม่ได้เจ็บไปด้วย จิตใจเป็นคนรู้คนดู ถ้าเราสามารถรักษาจิตใจให้เป็นคนรู้คนดูได้ จิตของเราดีแล้ว ถ้าตายไปอย่างไรก็ไปสุคติ เพราะเรามีสติรักษาจิตเอาไว้ได้อย่างดีแล้ว เป็นกุศลอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเลย