ดูแลพ่อที่ป่วยอยู่ ไม่อยากให้พ่อตาย จึงปฏิบัติทุกวันเพื่อให้ผลบุญส่งให้พ่ออยู่กับเรานานๆ

บุญไม่ได้ช่วยให้ใครรอดตายหรอก แต่บุญกุศลทำให้เราไม่ทุกข์ พ่อยังอยู่เราก็มีความปลื้มใจได้ดูแล ได้ทำสิ่งที่ดีงาม ใจเราเป็นบุญ ใจเรามีความสุข ไม่กังวล ถ้าพ่อจะตาย ใจเรามีปัญญารู้สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ใจเราไม่เศร้าหมอง ผลของการปฏิบัติจะเป็นอย่างนี้ คือถ้าใครช่วยใครได้ให้มันไม่ตายได้ พระพุทธเจ้าไม่นิพพานหรอก ไม่มีใครห้ามความตายได้หรอก เพียงแต่ว่าเมื่อความตายของคนที่เรารักมาถึง ตั้งสติให้ได้ ไม่เศร้าหมองเท่านั้นล่ะ

การเทียบเคียงของการปฏิบัติ ปัญญายังไม่พอ กลัวหลงในทางที่ละเอียด

การภาวนา หยาบหรือละเอียดมีผลเท่ากัน เพราะฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องรู้ละเอียด ถ้ารู้ของหยาบได้ เราก็รู้ของหยาบ ของหยาบก็สอนไตรลักษณ์ รู้ได้ละเอียด มันรู้เอง ไม่ได้เจตนารู้ สิ่งที่ละเอียดก็แสดงไตรลักษณ์ แสดงอันเดียวกัน

ธุรกิจครอบครัวทรุดหนัก ทุกข์มาก กายก็มีวิบาก ระหว่างวันจิตรู้สภาวะได้เอง ใจเบามากขึ้น เห็นกายไม่ใช่เรา แต่จิตยังมีเราอยู่ ต้องพัฒนาอย่างไร

โลกไม่เคยสงบสุข โลกไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะธรรมะประจำโลก มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีนินทา มีสรรเสริญ มีสุข มีทุกข์ อันนั้นคือธรรมะประจำโลก เราไม่ได้ภาวนาเพื่อว่าจะทำลายธรรมะประจำโลก แต่เราจะอยู่กับโลกอย่างเข้าใจโลก เข้าใจธรรมะประจำโลก เชื่อหรือยังว่ามีลาภ แล้วก็เสื่อมลาภได้ นั่นล่ะคือสัจจะ คือความจริง ถ้าใจเรายอมรับได้ ช่วงนี้ทำธุรกิจได้ไม่ดี ใจเรายอมรับได้ ธุรกิจมีปัญหาแต่ใจเราไม่ทุกข์

เจอการกระทบทางอารมณ์เวลาทำงาน เวลาทำงานแล้วกายล้ามากๆ จะควบคุมสติให้อยู่เหนือความล้าของกายได้อย่างไร

เราต้องรู้จักเบรกตัวเองเป็นช่วงๆ เราทำงานไปสักชั่วโมงหนึ่งอะไรอย่างนี้ ก็เบรกตัวเองได้ก็เบรก เดินไปห้องน้ำไปอะไรอย่างนี้ เปลี่ยนอารมณ์ ตอนที่เราเบรกใจเราจะสดชื่นขึ้นมาหน่อย ก็มาทำงานต่อ แต่ถ้าตะลุมบอนเช้ายันเย็น มันล้า จิตมันก็ล้า มันไม่ล้าเฉพาะกายหรอก จิตมันก็เหนื่อย เพราะฉะนั้นก็ให้มันได้พักเป็นระยะๆ ไป ชั่วโมงหนึ่งให้พักสัก 5 นาที เก็บเล็กเก็บน้อยไป ถ้าชั่วโมงหนึ่งเราทำสมาธิ 5 นาที 12 ชั่วโมงเท่ากับเราทำสมาธิ 1 ชั่วโมงแล้ว ฉะนั้นเราเก็บไปเรื่อยๆ จิตมันจะมีแรง

ที่ผ่านมามีทุกข์ทางความรักและโรคจิตเวช พยายามหาทางออกด้วยการปฏิบัติธรรม ฟังธรรม

ไปฟังเทศน์ที่หลวงพ่อเทศน์ ไม่ต้องรีบปฏิบัติหรอก ฟังเทศน์ไป สบายใจก็รู้ กลุ้มใจก็รู้ รู้ไปเรื่อยๆ ฟังเทศน์ไปเรื่อยๆ ฟังแล้วสบายใจก็รู้ ตอนนี้ไม่ได้ฟังแล้ว ไม่สบายใจก็รู้ รู้เรื่อยๆ ไม่ต้องหาทางทำให้ดี จิตเวชคนไทยเป็นเยอะหลาย 10 เปอร์เซนต์เลย แต่คนไทยไม่ค่อยยอมรับ กลัว ไปหาหมอจิตแพทย์ กลัวเดี๋ยวคนจะว่าเป็นบ้า มันคนละเรื่องกันเลย อย่างเราเป็นโรคซึมเศร้า ไปหาหมอก็ไม่เป็นไร แล้วก็อย่าไปคิดว่าถ้าเป็นโรคทางจิตใจ แล้วจะไปนั่งสมาธิแล้วหาย บางคนยิ่งนั่งยิ่งเป็นก็มี

ภาวนาในรูปแบบโดยรู้ท้องพองท้องยุบ กำหนดรู้ท้องพองยุบ รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก จึงเปลี่ยนรู้ลมหายใจ แต่ลมหายใจเบาจนแทบรู้สึกไม่ได้

ใช้กรรมฐานอะไรก็ได้ ถ้าต้องการให้สงบ เราก็ดูท้องเราหรือดูลมหายใจ แต่ถ้าต้องการให้จิตตั้งมั่น ก็รู้ทันจิตตนเองว่าตอนนี้จิตไปอยู่ที่ท้องแล้ว ตอนนี้จิตไปอยู่ที่ลมหายใจแล้ว สมาธิเลยมี 2 แบบ สมาธิอย่างที่หนึ่ง จิตเข้าไปนอนพักในอารมณ์อันเดียวที่มีความสุข อย่างไปอยู่กับท้องแล้วสบายใจ อยู่กับลมแล้วสบายใจ นี่เป็นสมาธิเอาไว้พักผ่อน สมาธิอีกชนิดหนึ่ง เป็นสมาธิที่ทำให้จิตตั้งมั่น บางคนไปบอกว่าสมาธิคือจิตตั้งมั่น ไม่ถูก ชอบไปบอกว่าหลวงพ่อสอนว่า สมาธิคือจิตตั้งมั่น สมาธิมันก็เป็นเจตสิก องค์ธรรมมันคนละตัวกับจิต มันคนละเรื่องกันเลย แต่ว่าจิตที่ตั้งมั่นก็คือจิตที่มีสัมมาสมาธิ ต้องแทรกตัวนี้นิดหนึ่ง ชอบโควทที่หลวงพ่อพูดแล้วเอาไปมั่วๆ โควทผิด ของเราถ้าอยากให้จิตตั้งมั่น ตอนนี้รู้ทันจิต เห็นไหมจิตมันส่ายไปส่ายมา ให้รู้ตัวนี้แล้วจิตจะตั้งมั่นขึ้นมา รู้สึกไหมจิตตรงนี้กับเมื่อกี้ไม่เหมือนกันแล้ว นี่คือสภาวะที่จิตตั้งมั่นขึ้นมา แล้วพอจิตตั้งมั่นแล้วลองดูร่างกายสิ ร่างกายไม่ใช่ตัวเรา รู้สึกไหมร่างกายไม่ใช่เราหรอก แต่ถ้าจิตสงบไปดูร่างกาย มันก็เราอีกล่ะ ฉะนั้นจิตที่สงบอยู่เฉยๆ กับจิตที่ตั้งมั่นไม่เหมือนกัน แล้วสมาธิในทางพระพุทธศาสนาไม่ได้แปลว่าสงบ สมาธิคือความตั้งมั่นของจิต ไม่ใช่คือจิตตั้งมั่นด้วย คือความตั้งมั่นของจิต ตรงนี้จิตไม่ตั้งมั่นแล้ว จิตไหลไปแล้วดูออกไหม ถ้าดูออกก็ภาวนาได้ล่ะ ไปทำเอา ในที่สุดจิตจะตั้งมั่น แล้วคราวนี้ สติระลึกอะไรลงไป มันจะเห็นเลยว่าไม่ใช่เราหรอก

เป็นพวกโทสจริตแต่ต้องมาขายของ ทั้งวันจิตอยู่แต่ในกลุ่มโทสะ จิตไม่ชอบ ไม่เป็นกลางแต่ก็อดทน

ขายของก็อ่านใจไปเรื่อยๆ เมื่อก่อนที่สุรินทร์ มีแม่ค้าขายผัก อายุก็เยอะเหมือนกัน กลางคนท่อนปลายแล้ว ใกล้จะแก่แล้ว ชื่อยาย สะเกียว ขายผัก ขายดี พอใจ รู้ว่าพอใจ เจอลูกค้าจู้จี้เลือกแล้วเลือกอีก ผักเราจะช้ำ ไม่พอใจ รู้ว่าไม่พอใจอย่างนี้ เขาก็ภาวนาของเขาได้ ขายไม่ออก กลุ้มใจ รู้ว่ากลุ้มใจ

อย่างเราขายของ แล้วขายไม่ออก แล้วเรากลุ้มใจ เรากลุ้มฟรี เพราะความกลุ้มใจไม่ได้ทำให้เราขายออก ยิ้มไว้ ยิ้มหวานๆ ไว้ดีกว่ามีนางกวักอีก บางคนหานางกวักหาแมวกวัก แต่หน้าเป็นมะเหงก ไม่มีใครเขาซื้อหรอก หัดยิ้มไว้ ยิ้มหวาน มองลูกค้า มองด้วยความรู้สึกเป็นมิตรๆ ฝึก นี่ล่ะคือการเจริญเมตตา ถ้าใจเรารู้สึกเป็นมิตร ใครเดินผ่านเรา มันจะรู้สึกสบายใจ เดี๋ยวเขาก็มาซื้อของเองล่ะ ไม่ต้องไปไหว้เทวดาที่ไหนเลย ทำใจของเราให้เป็นมิตรกับคนอื่น กับลูกค้ากับอะไร มันจะดึงดูดคนเข้ามาหา

เมื่อก่อนหลวงพ่อเคยได้ยินครูบาอาจารย์ท่านเล่า บอกพระอรหันต์หรือครูบาอาจารย์ชั้นสูง แต่ละองค์มีวิหารธรรมไม่เหมือนกัน แล้วผลที่เกิดขึ้นก็ไม่เหมือนกัน อย่างหลวงปู่ดูลย์ วิหารธรรมของท่านคือมหาสุญญตา ท่านอยู่กับว่าง พวกที่ปัญญากล้าจะเข้าไปหาท่าน คนทั่วๆ ไปก็รู้สึกท่านภาวนาไม่เป็น

ครูบาอาจารย์บางองค์อย่างหลวงปู่ขาว หลวงปู่เทสก์ วิหารธรรมของท่าน คืออัปปมัญญา เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาไม่มีประมาณ เรียกว่าอัปปมัญญา ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาที่ไม่มีประมาณ ไม่ได้มีขอบเขต ไม่ได้เจาะจงเฉพาะบุคคล มันดึงดูดคนอยากหาท่านเยอะเลย เข้าไปหามากมาย เข้าไปใกล้แล้วมีความสุข คนก็อยากเข้าไป ถ้าใจเรามีความเมตตาอยู่ คนเข้าใกล้แล้วมีความสุข เขาก็อยากมาหา อยากมาซื้อของ ไม่กลุ้มหรอกคราวนี้ บางคนหลวงพ่อแนะนำอย่างนี้แล้วไปทำ ทำสำเร็จจริงๆ สำเร็จจนกลุ้มใจเลย มาบอกหลวงพ่อว่าเหนื่อยเหลือเกิน ลูกค้าเยอะเกินไป แต่หลวงพ่อก็ไม่ได้ไปแนะนำให้เจริญโทสะ เจริญโทสะเดี๋ยวลูกค้าก็หนีไปหมดอีก เจริญเมตตาไป

ฝึกจิตตั้งมั่นได้อัตโนมัติขึ้นแต่ยังไม่แข็งแรง ยังเจริญปัญญาไม่ได้อัตโนมัติ

คำถาม: รักษาศีล ภาวนาในรูปแบบ อยู่กับวิหารธรรมบ่อยๆ ฝึก …

Read more

เพ่งโทษและติดบังคับ พอรู้ตัวว่าหลง จิตจะไปล็อค แน่นหน้าอกขึ้นมาทันที ติดบังคับ

คำถาม: หลงคิดว่าตัวเองเก่งและดี พอมีผัสสะมากระทบ จะมีโท …

Read more

ที่ผ่านมา ไม่สามารถนั่งทีละนานๆ ได้เหมือนก่อน ถ้าไม่นั่งสมาธิ ใจจะมีสมาธิเป็นธรรมชาติมากกว่านั่งในรูปแบบ ควรฝืนนั่งสมาธิต่อไปหรือไม่

คำถาม: อยู่ไกลทำให้การปฏิบัติธรรมเป็นที่พึ่งทางใจ เกาะเ …

Read more

Page 1 of 17
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 17