ความกตัญญูทำให้มนุษย์ต่างจากสัตว์

มนุษย์ไม่ใช่สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ต่างกับเดรัจฉานตรงมีวัฒนธรรมนี่ล่ะ วัฒนธรรมก็เกิดขึ้นมาด้วยเหตุผล ความจำเป็นของสังคม เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราก็มีวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีผู้ให้ มีผู้รับ ผู้ที่เขาให้เราก่อนเรียกบุพการี เป็นคนที่หาได้ยาก คนที่ให้เราก่อนโดยไม่หวังผลอะไร เราต้องนึกถึง อย่าไปเชื่อความเห็นของมาร อย่างยุคนี้ไม่มีศีล ไม่มีธรรม ไม่มีวัฒนธรรม อันนั้นมันหมาแล้ว หมามันยังกตัญญู มันคล้ายๆ สัตว์ ในนี้สัตว์เยอะ ลูกสัตว์พอมันโต มันก็แยกตัวออกไปทำมาหากิน มีครอบครัวของมัน มันไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่เป็นเรื่องแปลก เพราะว่าเขาเป็นเดรัจฉาน ถ้าเราไม่ใช่เดรัจฉาน เราก็นึกถึงพ่อถึงแม่เราบ้าง นึกถึงผู้มีพระคุณของเราบ้าง มันเป็นสิ่งที่ดีงาม

คุณของพระพุทธเจ้า

สิ่งที่เป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ คือตัวคุณธรรม คุณธรรมของพระพุทธเจ้ามีอะไรบ้าง ท่านมีปัญญาธิคุณ ท่านตรัสรู้ได้ด้วยตัวเอง เราที่เป็นสาวก กระทั่งอรหันตสาวก ไม่มีปัญญาธิคุณอันนี้ เรามีกรุณาธิคุณเหมือนพระพุทธเจ้าไหม สาวกมีไม่เหมือนพระพุทธเจ้า มีไม่เท่า พระพุทธเจ้าตกนรกไปช่วยคนก็ยังได้ สาวกก็ยังไม่ค่อยกล้าหาญขนาดนั้น ความกรุณานี้ไม่เท่าเทียม พอพิจารณามาถึงความบริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าบริสุทธิ์ พระสาวกก็บริสุทธิ์ เป็นอันเดียวกัน ความรู้สึกมันจะรู้สึกว่า จิตที่บริสุทธิ์นั้น ที่เราพัฒนาขึ้นมา กับความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แล้วจะรู้ทันทีเลย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมเป็นหนึ่งเดียวกันเลย จากสามก็เป็นหนึ่ง เป็นอันเดียวกันหมด

ฉะนั้นเราภาวนา วันหนึ่งเราจะเจอพระพุทธเจ้าตัวจริง เราจะเจอพระพุทธเจ้าตัวจริงได้ ใจเราต้องสะอาด เราต้องล้างความสกปรกด้วยศีล ด้วยธรรม