เวลาภาวนาอย่าใจร้อน

ภาวนา ค่อยๆ เข้าใจไป ทำให้ถูก ไม่ใช่ทำแบบลุกลี้ลุกลน ภาวนาลุกลี้ลุกลนอยากจะได้ผลเร็วๆ มันจะไม่ได้อะไร ความอยากมันทำให้จิตปรุงแต่ง จิตก็ดิ้นรน ความปรุงแต่งของจิตคือภพ มรรค ผล นิพพานมันพ้นจากภพไป เราก็เอาแต่ปรุงแต่ง อยากดีๆ อยากดีจิตก็เลยสร้างภพของคนดี เป็นคนดี เป็นนักปฏิบัติที่ดีอะไรอย่างนี้ มันจอมปลอมทั้งหมดล่ะ ให้รู้ทันเลย ฉะนั้นเวลาเราภาวนา อย่ารีบร้อน อย่ากระโดด อย่าข้ามขั้น ค่อยๆ ภาวนา ค่อยๆ เรียน ค่อยๆ รู้

วัฏฏะไม่มีความแน่นอน

เวลาที่เราเดินทางไกลในสังสารวัฏเราก็มีพ่อ มีแม่ มีสามี มีภรรยา มีลูก มีหลาน แต่ละภพแต่ละชาติก็มีเยอะแยะไปหมด ชาตินี้คนนี้มาเป็นสามี ชาติหน้าคนอื่นก็มาเป็นอะไรอย่างนี้ วัฏฏะไม่มีความแน่นอน หรือมาเป็นพ่อแม่เป็นลูกหลานกัน วัฏฏะที่ยาวนานนั้น พระพุทธเจ้าท่านถึงขนาดบอกว่า คนในโลกที่มาเจอกัน ที่ไม่เคยเป็นพ่อแม่พี่น้องกัน ไม่เคยเป็นลูกเป็นอะไรอย่างนี้ หาแทบไม่ได้เลย สังสารวัฏไม่ได้มีอะไรน่าชื่นใจเลย แล้วก็ไม่มีอะไรยั่งยืนมั่นคงเลย มันเป็นอย่างนี้มาตลอด ถ้าเราเข้าใจเราก็ไม่ยึดถือมันมาก