หลักสูตรสู่มรรคผลนิพพาน

งานพัฒนาจิตมี 3 งาน อันที่หนึ่งฝึกจิตใจให้อยู่กับเนื้อกับตัว อันที่สองแยกขันธ์ให้ได้ อันที่สามเห็นขันธ์แต่ละขันธ์ เห็นสภาวะแต่ละสภาวะตกอยู่ใต้ไตรลักษณ์ ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูสิมันจะโง่จนไม่ได้มรรคได้ผลเชียวหรือ ถ้าทำแบบนี้ไม่ได้ ชาตินี้ไม่ได้ชาติต่อไปก็ง่ายๆ แล้ว ไม่ใช่ทุกคนจะได้ หลวงพ่อไม่ได้ชี้ขาดว่าทุกคนจะต้องได้ในชาตินี้
แต่ถ้าเราทำไม่เลิก แล้วเราไม่ได้มีวิบากอะไรรุนแรง วันหนึ่งเราก็ต้องได้
เพราะฉะนั้นทำ 3 ข้อนี้ให้ได้ คืองานพัฒนาจิต
ถ้าพูดเทียบกับปริยัติ
อันแรกก็คือ การพัฒนาสัมมาสมาธิขึ้นมา
งานที่สองคือ การเจริญปัญญาเบื้องต้น
อันที่สามคือ การเจริญให้เกิดวิปัสสนาปัญญา
โสดาบันไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ใช่เรื่องยากเลย
รักษาศีล 5 ให้ดี แล้วก็ทำอย่างที่หลวงพ่อบอก
ฝึกจิตใจให้มันรู้เนื้อรู้ตัวไว้ แล้วก็แยกขันธ์
กายส่วนกาย จิตส่วนจิต เป็นคนละส่วน
เห็นแค่ว่าเป็นคนละส่วน
กายก็อย่างหนึ่ง จิตก็อย่างหนึ่ง
ไม่ได้ถอดจิตออกจากร่าง อยู่ด้วยกันแต่เป็นคนละอัน

ขาดสติเมื่อไรก็คือประมาทเมื่อนั้น

ธรรมะสำคัญที่พระพุทธเจ้าสอนเรานาทีสุดท้ายที่ท่านจะนิพพาน ช่วงเวลาสุดท้ายที่ท่านจะนิพพาน ท่านบอกพวกเราให้ทำประโยชน์ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท คำว่าไม่ประมาทคือเราต้องมีสติอยู่กับปัจจุบันไป ถ้าเราทิ้งปัจจุบันก็เรียกว่าเราประมาท คือเราไปเพ้อฝันถึงอดีตเรียกว่าประมาท เพราะว่าเราทำลายเวลาให้ล่วงไปเปล่าๆ ในความฝัน ถ้าเราไปห่วงไปกังวลถึงอนาคต เครียดทั้งๆ ที่ปัญหายังไม่ได้เกิด โง่ไหม เครียด กลุ้มใจตั้งแต่ปัญหายังไม่เกิดเลย พอปัญหาเกิดแล้วก็ตีโพยตีพายจะให้คนโน้นช่วยจะให้คนนี้ช่วย ใครเขาไม่ช่วยก็โมโหอีกอะไรอย่างนี้ ไม่ได้เรื่อง ฉะนั้นเราใช้ปัจจุบัน มีสติอยู่กับปัจจุบัน ใช้อดีตเป็นบทเรียน วางแผนถึงอนาคต มีชีวิตอยู่กับปัจจุบันไป มีสติไปทุกขณะๆ หายใจออก

มีชีวิตด้วยความไม่ประมาท

อย่างพวกเรามีโอกาสเจอศาสนาพุทธแล้ว ถ้าไม่รู้จักตักตวงผลประโยชน์จากศาสนาพุทธ คือการเรียนรู้สัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ถ่องแท้ เรียกว่าเราประมาท เพราะศาสนาพุทธจะสูญไปเมื่อไร ไม่รู้ ปกติไม่ยั่งยืนเท่าไรหรอก มันเป็นศาสนาที่เข้าใจยาก ศาสนาที่ต้องช่วยตัวเอง คนส่วนใหญ่อ่อนแอไม่ได้คิดจะช่วยตัวเอง คิดจะขอพรขออะไรไป ฉะนั้นอย่าประมาท มีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมะแล้ว ลงมือปฏิบัติ

มรดกกรรม

เราภาวนาเราจะรู้เลยจิตดวงหนึ่งเกิดขึ้น ดวงหนึ่งดับไปทั้งวันทั้งคืน ดับแล้วมันมีพลังงาน มีวิบากยังผลักดันให้เกิดจิตดวงใหม่ขึ้นมาได้ ฉะนั้นมันไม่ใช่ตายแล้วสูญ วิบากกรรมส่งผลให้เกิดขันธ์ใหม่ในภพใหม่ขึ้นมา ขันธ์ใหม่ในภพใหม่เหมือนกับเป็นลูก กระทั่งจิตดวงต่อไปเหมือนเป็นลูกของจิตดวงเก่า จิตมันมีมรดก จิตดวงใหม่ที่เกิดขึ้นก็รับมรดกมาจากจิตที่เป็นพ่อเป็นแม่ของมัน จิตดวงเก่าทำกุศลไว้เยอะก็คล้ายๆ เป็นเศรษฐี วิบากให้ผลไปเกิดจิตดวงใหม่ขึ้นมา เหมือนมีลูก ลูกก็พลอยเป็นเศรษฐีไปด้วย จิตดวงเก่าทำบาปมาเยอะ บุญไม่ได้ทำ ทำแต่กรรมชั่ว ก็เหมือนจิตดวงใหม่เกิดมาเป็นลูกของจิตดวงเดิมนี้ ลำบากยากจน ชีวิตลำบาก ฉะนั้นจิตนี้เกิดดับสืบเนื่อง กระทั่งการข้ามภพข้ามชาติ

ใช้กรรมเก่าเป็นทรัพยากร

มีร่างกายนี้ก็สร้างความดีไปเรื่อยๆ เรียกว่าเรารู้จักใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีให้มีคุณค่า เป็นคนดี แล้วถ้าจะดีกว่านั้นอีก เอาร่างกายมาภาวนา มาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ทำสมถะ ทำวิปัสสนา อาศัยร่างกายทั้งนั้น มีสติระลึกรู้ลงไปในร่างกาย มีจิตตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดู คือจิตทรงสมาธิที่ถูกต้อง มีสติระลึกรู้ลงในร่างกาย ไหนๆ ก็มีร่างกายแล้ว แทนที่จะให้มันเป็นเครื่องมือของกิเลส เอามันมาใช้เป็นเครื่องมือผลิตสติผลิตปัญญาของเรา เราใช้ทรัพยากรใช้กรรมเก่าให้เกิดประโยชน์สูงสุดเลย