เวลาที่เราเดิน ที่หัวจงกรม มือไม่ไขว้หน้า มือไม่ไขว้หลัง แต่ไม่ใช่หมายความว่าถูกสำหรับทุกคน แล้วเหมาะกับทุกคน
เวลาที่เราเดิน คุณเดินช็อปปิงท่าไหน คุณเดินท่านั้น คุณเดินเข้าห้องน้ำท่าไหน เดินท่านั้น เราถึงจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง การเดินจงกรมเป็นกรรมฐานที่เคลื่อนไหว หลวงปู่ดูลย์ท่านเขียนไว้ในหนังสือท่านเลย “สมาธิที่หยั่งลงถึงความสงบแล้วด้วยการเดินจงกรม จะมีกำลังมากกว่านั่งหรือนอน” แล้วเราสามารถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ
หลายๆ ท่านที่เดินจงกรมแล้ว ลองกลับไปสังเกตว่า เรารู้สึกตัวได้จริงไหม ถ้าการเดินจงกรมของคุณถูกต้อง เวลาที่คุณอยู่ในชีวิตประจำวัน แค่เท้าขยับ จิตมีสติตื่น เราเรียกว่า alert ตื่นขึ้นเลย คุณนั่งอยู่บนโต๊ะทำงาน แค่คุณสะบัดปากกา จิตจะตื่นเลย ถ้าคุณถูกต้อง แต่ถ้าคุณไปสังเกตแล้วมันไม่เกิดอาการเหล่านี้เลย ให้ดูไว้ก่อน เราต้องผิดตรงไหนสักอย่างหนึ่ง
จิตจะมาเห็นกายที่เดิน เราก็รู้ว่าเห็นกาย จิตจะเห็นว่าไหลไปคิด ก็รู้ว่าไหลไปคิด แล้วแต่ว่าตอนนั้นอะไรเด่น จิตตอนนั้นถ้าอะไรเด่น รู้ว่ามันเด่น เราไม่สนใจ เพราะในระหว่างนั้นเป็นเวลาที่เรามารู้ความจริงของกายกับใจ
วิธีที่ผิด ส่วนใหญ่ที่หัวจงกรมกับท้ายจงกรม ก่อนเดิน มือไม่ไขว้หน้า มือไม่ไขว้หลัง คุณวางอย่างที่คุณเดินในชีวิตประจำวัน อย่างเวลาคุณเดินข้ามถนน ก่อนเดิน ทำความรู้สึกตัว
ทำความรู้สึกตัวเป็นอย่างไร ทุกคนลองหลับตา จะให้ลองรู้ว่ารู้สึกตัวเป็นอย่างไร รู้สึกไหมว่าเย็น ถ้ารู้สึกพยักหน้า พยักหน้าขึ้นลงก็ได้ ส่ายหน้าก็ได้ ให้หลับตาเพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณจะรู้สึกว่าคุณเห็นด้วยตาเนื้อ ความรู้สึกตัว คือความรู้สึกข้างใน เรารู้จากจิต พยักหน้าขึ้นลงเลยค่ะ เอาสบายๆ ไม่ต้องบังคับว่าต้องเป็นจังหวะ ขวาซ้ายก็ได้ แล้วแต่ชอบแบบไหน ลองดู
ลองยิ้ม แล้วเปิดตา เปิดด้วยความสดใสเพราะเรายิ้ม รู้สึกตัวเป็นแบบนั้น ไม่ใช่ต้องแน่นๆ ต้องชัดๆ ต้องดีๆ นึกออกไหมนักภาวนา เวลาดูลม รู้สึกต้องชัดๆ รู้สึกว่าต้องดีๆ เอาแค่นี้ ความรู้สึกตัวคือแบบนี้ เรารู้สึกถึงตัวนี้ว่ายืนอยู่ เหมือนที่ในขณะนี้ทุกท่านรู้สึกว่าตัวนี้นั่งอยู่ แค่รู้สึกแค่นั้น เย็น รู้ว่ามันเย็น แค่นี้จบแล้ว จากนั้นคุณเดิน…