การสุ่มตัวอย่างมาเรียน

การที่เราจะเจริญสติปัฏฐานจะด้วยกาย เวทนา จิต หรือธรรม อันใดอันหนึ่ง ก็ทำไปเพื่อให้เกิดสติบ่อยๆ สติปัฏฐานนั้นมีวัตถุประสงค์ 2 อย่าง มี 2 ระดับ เบื้องต้นทำไปเพื่อความมีสติ เบื้องปลายทำไปเพื่อความมีปัญญา หมายถึงเราไม่ต้องเรียนกายทั้งหมด เราไม่ต้องเรียนเวทนาทั้งหมด เราไม่ต้องเรียนจิตทั้งหมด ไม่ต้องเรียนธรรมะทั้งหมด เราเรียนบางอย่างบางข้อ ถ้าเข้าใจแจ่มแจ้งในเรื่องนั้นแล้ว เราจะเข้าใจธรรมะทั้งหมด เป็นการสุ่มตัวอย่างมาเรียน ไม่ได้ผิดอะไรกับการทำงานวิจัยภาคสนามเลย การที่พระพุทธเจ้าสอนสติปัฏฐาน สอนไม่ได้แตกต่างกับหลักที่หลวงพ่อบอกเลย สุ่มตัวอย่างมาเรียน ถ้าเข้าใจในสิ่งที่เรียนแล้วจะเข้าใจทั้งหมด แล้วพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ให้เราไปสุ่มส่งเดช ท่านกำหนดหัวข้อมาให้แล้ว

ชีวิตติดกับความหดหู่ ​เพราะแมวที่เลี้ยงไว้ป่วย จิตคอยสงสารสัตว์​ไปทั่ว​ กลัวความเจ็บป่วยพลัดพราก กลัวภาระ

คำถาม: ชีวิตติดกับความหดหู่ ​เพราะแมวที่เลี้ยงไว้ป่วย จ …

Read more

เมตตาเป็นธรรมสำคัญมาก

เวลามีความเมตตาเกิดขึ้น คนแรกที่ได้รับประโยชน์คือตัวเราเอง ใจที่มีเมตตามันนุ่มนวล อ่อนโยน มันเบาสบาย มันเป็นกุศล ใครเข้าใกล้เราก็พลอยร่มเย็นไปด้วย ถ้าใจเราคิดแต่ประหัตประหาร เบียดเบียน แย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างจากคนอื่น ใครเขาเข้าใกล้เราเขาหวาดผวา หาความสุขไม่ได้ ฉะนั้นเมตตาไม่เพียงแต่ตัวเองได้ประโยชน์ ผู้อื่นคือสัตว์โลกทั้งหลายได้ประโยชน์ด้วย

วิธียกระดับจิตใจ

ความชั่วอะไรที่ยังไม่ละก็ละเสีย อย่าไปทำชั่วซ้ำขึ้นมาอีก ความดีอะไรยังไม่ทำก็ทำเสีย ความดีอะไรที่ทำแล้วก็รักษาเอาไว้ ไม่หลงโลก แบ่งเวลาไว้ภาวนาทุกวันๆ เจริญสติ สมาธิ ปัญญาไป ใจเราก็สูงๆๆ ขึ้นไปเรื่อยเป็นลำดับไป จนถึงโลกุตตระ