งานภาวนา 3 ขั้น

งานแรก คือตื่นขึ้นมา หลุดออกจากโลกของความคิดความฝันโดยที่ไม่เผลอไม่เพ่ง อันที่สอง คือ แยกขันธ์ออกมาให้ได้ งานที่สามของเรา คืองานเจริญวิปัสสนา พอเราแยกขันธ์ได้ เราก็จะเห็นรูปแต่ละรูป นามแต่ละนามเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีแต่ความไม่เที่ยง มีแต่การทนอยู่ไม่ได้ ถูกบีบคั้นให้แตกสลายอยู่ตลอดเวลา แล้วบังคับไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ ไม่เป็นไปตามใจอยาก นี่คือเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ตอนนี้เห็นกิเลสตัวเล็กๆ บางตัวก็ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี และเห็นจิตที่ถูกบีบคั้นอยู่บ่อยๆ

2 ปีก่อน หลวงพ่อบอกดิฉันว่าจิตฟุ้งซ่าน ให้บริกรรมช่วย ตอนนี้ดิฉันเห็นกิเลสตัวเล็กๆ มากขึ้นมาก บางตัวก็ไม่เคยรู้ว่าตัวเองมี เห็นจิตที่ถูกบีบคั้นอยู่บ่อยๆ ขอการบ้านหลวงพ่อต่อค่ะ

 

หลวงพ่อ:

ทำต่อไป ทำแล้วเราเห็นกิเลสเรา เรามีพัฒนาการแล้ว ต่อไปเราก็จะสังเกตเวลากิเลสเกิด จิตบางทีก็มีโทสะแทรก เราไม่ชอบกิเลสอะไรอย่างนี้ ให้รู้ทัน นึกออกไหม บางทีเห็นกิเลสแล้วไม่ชอบมัน มันไม่เป็นกลาง ให้รู้ทันไปว่าตอนนี้ไม่ชอบแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นกลางแล้ว เพราะฉะนั้นจิตที่ดีที่หลวงพ่อบอกว่ามันสงบ มันตั้งมั่น มันเป็นกลาง จุดสำคัญต้องเป็นกลางด้วย ตั้งมั่นอย่างเดียวแต่ไม่เป็นกลาง ยังไม่ดีพอ

ฉะนั้นอย่างเราตั้งมั่น เราก็จะเริ่มเห็นสภาวะ อย่างเห็นกิเลสเยอะแยะเลย แต่ใจมันไม่ชอบ ใจมันไม่เป็นกลาง ให้รู้ตรงที่ใจไม่เป็นกลาง พอใจเป็นกลาง เราจะเดินปัญญาต่อได้ง่ายๆ เลย กิเลสจะมาหรือกิเลสจะไป เราไม่เกลียด เราไม่ดีใจ เราไม่เสียใจ เราก็เห็นแค่ว่าสภาวะบางอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป เราไม่หลงดีใจ เราไม่หลงเสียใจกับมัน ค่อยๆ ดูจนมันเป็นกลาง แต่ความเป็นกลางอย่าไปแต่งขึ้นมา อย่าไปทำมันขึ้นมา ให้รู้ตรงที่มันชอบ ตรงที่มันไม่ชอบแล้วมันเป็นกลางของมันเอง ตรงที่เราไปจงใจให้เป็นกลาง อันนั้นกลางปลอม ใช้ไม่ได้

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
25 กรกฎาคม 2564

จิตตั้งมั่น

พอจิตมันตั้งมั่นขึ้นมาแล้ว มันจะเห็นทุกข์ได้ ถ้าจิตไปว่างอยู่ข้างนอก ไม่มีวันเห็นทุกข์หรอก มันมีแต่สุข มันมีแต่สบาย มีแต่ว่าง ถ้าจิตใจอยู่กับเนื้อกับตัวจริงๆ ระลึกลงในกายก็เห็นทุกข์ในกาย ระลึกลงที่จิตก็เห็นทุกข์ที่จิต ตรงนี้จิตมันเดินปัญญาได้ แล้วขันธ์มันแยก มันแยกตั้งแต่จิตเราตั้งมั่นเป็นผู้รู้ผู้ดูแล้ว

ดูลมหายใจเข้า-ออก บ่อยครั้งจะติดสมถะ

คำถาม:

ส่งการบ้านครั้งแรก ปฏิบัติตามแนวทางของหลวงพ่อมาประมาณ 3 ปี ภาวนาโดยการดูลมหายใจเข้า-ออก บ่อยครั้งจะติดสมถะ จึงเปลี่ยนมาดูร่างกาย ขอความเมตตาหลวงพ่อช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

 

หลวงพ่อ:

ไม่ต้องแนะมากคนนี้ ที่ภาวนาอยู่ใช้ได้ ดีแล้วล่ะ จิตมันตั้งมั่นขึ้นมาเป็นผู้รู้ผู้ดู ระวังอันเดียวว่าจิตมันไม่เข้าฐาน เวลามันตั้งอยู่นี่ บางทีมันอยู่นอกฐาน ลองหายใจสิ ลองหายใจสบายๆ อย่าดึงจิต อย่าไปยุ่งกับจิต หายใจเฉยๆ รู้สึกไหม ตรงนี้กับตะกี้ไม่เหมือนกัน เมื่อกี้จิตมันยังอยู่ข้างนอก พอมันเข้ามาอยู่ตรงนี้เห็นไหมว่ามันทุกข์ มันจะเริ่มรู้ทุกข์ แต่ถ้าจิตไปอยู่ข้างนอกจะไม่เห็นทุกข์ ทำไมไม่เห็นทุกข์ ทุกข์ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ทุกข์อยู่ที่กายที่ใจนี้

ฉะนั้นถ้าจิตเราตั้งมั่นจริงๆ จิตอยู่กับกายกับใจจริงๆ เราจะเห็นทุกข์ ถ้าไม่เห็นทุกข์ ไม่เห็นธรรม เห็นทุกข์ถึงจะเห็นธรรม แต่ที่ฝึกมานี่ใช้ได้แล้ว สมาธิของหนูนี่ดีแล้วล่ะ ฝึกมาได้ดีแล้ว ระมัดระวังอันเดียว เวลาจิตมันไม่เข้าฐาน ให้รู้ทันมัน อย่างตอนนี้จิตออกจากฐานแล้วรู้สึกไหม เวลาจิตออกจากฐานไม่ต้องทำอะไร หายใจไปสบายๆ เดี๋ยวมันเข้ามาเอง แต่ถ้าอยากจะให้มันเข้า มันจะแน่นไปหมดเลย ถ้าแน่น แสดงว่าผิดแล้ว แสดงว่าเราไปบังคับมันแล้ว นี่ตรงนี้บังคับแล้ว ไปหัดต่อ ที่ฝึกอยู่ใช้ได้ ดี

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
18 กรกฎาคม 2564
Page 8 of 8
1 2 3 4 5 6 7 8